ช้างเผือกในป่าอีสาน หลวงตาสมหมาย วัดป่าสันติกาวาส คำสอน/ประสบการณ์/วัตถุมงคล/ (ช่างชิต)

....สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ก็ขอเขียนความในใจมาเล่าสู่กันฟังหน่อย ถ้าท่านไหนเห็นว่ายาวรำคาญคิดว่าไม่มีสาระให้ข้ามไปเลยนะครับ อย่าโกรธกันต้องขออภัย
.
....กลับเข้าเรื่องดีกว่า ช่างชิตเชื่อว่าคนเราจะทำอะไรสิ่งไหนการใด ก็ต้องมีเป้าหมายเป็นหลัก เป้าหมายจะแบ่งให้ย่อยลงและสามารถค้นหาวิธีในการปฏิบัติเพื่อถึงเป้าหมายได้ง่าย ก็แบ่งเป็น เป้าหมายระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว และเราก็ต้องว่าแผนให้เป้าหมาย3อย่างสอดคล้องกันด้วย
.
.....เป้าหมายของเราในเรื่องที่จะทำ ตั้งขึ้นมาก็ต้องอยู่ในความเป็นจริงและศักยภาพที่เราสามารถทำได้จริง นั้นคือ "เป้าหมายที่ดีเป็นไปได้" ไม่ใช่เรามีความสามารถแบบนี้ในสภาวะแบบนี้แล้วตั้งเป้าหมายเกินตัวไปมากมันก็เป็นได้แค่ "ความใฝ่ฝันเท่านั้นละครับ"
.
....ยกตัวอย่างเช่น ช่างชิตเป็นวิศวกรกินเงินเดือนไม่กี่บาทในประเทศไทย แต่ตั้งเป้าหมายว่าอีก 5 ปี จะเป็น "นักบินอวกาศคนไทยคนแรกที่ไปดาวอังคาร" อย่างนี้มันคงไม่น่าใช่เป้าหมายที่ดีนะครับ มันน่าจะออกแนวเพ้อฝันมากกว่า 5555++ ฉะนั้นต้องแยกระหว่าง ความใฝ่ฝันและเป้าหมายออกจากกันก่อนนะครับ
.
.....วันแรกที่ตัดสินใจเขียนเรื่องราวของหลวงตาลงในโลกโซเชียล จุดประสงค์หลักจริงๆจากใจเลยคือ
.
1.อยากให้คนได้กราบพระที่ดีจริง ในยุคที่คนร้องยี้ๆกับพระ แล้วก็บ่นว่า พระไม่ดีๆ พระดีๆมีแต่ในพระไตรปิฏก ฟังบ่นมากเข้า ก็เลยเขียนบอกซะ ว่า "อย่ามัวแต่ตะโกนร้องปาวๆ พระดีๆท่านไม่ไปเคาะประตูบ้านมึงแล้วบอกว่าท่านดีเหมือนพวกไปขายเครื่องกรองน้ำหรอก ลองค้นหาซะหน่อยสิ ตรงนี้มีนะ ช่างชิตคนเขียนได้สัมผัสมาจริงๆเลยสามารถพูดได้เต็มปากว่า ท่านดีจริง"
.
2.อยากเขียนเรื่องราวอีกมุมหนึ่งของหลวงตา ในแง่ของอภิญญาที่ช่างชิตได้สัมผัสมา ให้ผู้ที่ยังชื่นชอบเรื่องราวแบบนี้ได้อ่านและเข้ามาแลกเปลี่ยนกัน เพราะเชื่อเต็มร้อยว่า "แม้มันจะไม่ใช่แก่นของพระศาสนาจริงๆ แต่มันก็ยังสามารถดึงจิตใจของคนที่ไม่มีหลัก ให้เข้ามาสู่เส้นทางของแก่นและในวันข้างหน้าเมื่อได้รับได้ฟังได้พิจารณาถึงคำสอนแบบแก่นของศาสนาจริงๆ ครั้นกำลังใจคนเรานั้นเข้มแข็งขึ้นก็จะละทิ้งเรื่องพวกนี้ไปเอง"
.
3. โดยพื้นฐานเป็นคนชอบคิดชอบเขียน จึงอยากจะทำในสิ่งที่ตัวเองรักตัวเองชอบและเป็นช่องทางให้ลูกศิษย์ลูกหาที่ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของประเทศได้พูดคุยกันเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน
.
.....นั้นคือจุดประสงค์หลักๆนะครับ ส่วนเป้าหมายไม่ว่าจะระยะไหนก็ตาม นั้นมีอยู่ข้อเดียวเลยคือ "ขอให้มีคนอ่านเรื่อยๆ" จะมากจะน้อยไม่เป็นไร แต่ขอให้มีคนอ่าน เพราะเขียนไปไม่มีคนอ่านจุดประสงค์ที่ตั้งมาก็ แท้ง!! ตั้งแต่ไม่ได้ปฏิสนธิละ!!
.
....มาวันนี้ 3จะ4ปีแล้ว ช่างชิตก็ยังเขียนอยู่ในช่องทางที่สามารถเขียนได้เหมือนเดิม แต่ทุกๆท่านลองดูจากภาพที่ช่างชิตลงสิครับ ช่างชิตเห็นครั้งแรกก็ดีใจมากๆ แม้ไม่สามารถแลกเป็นเงินทองได้แม้แต่บาทเดียว แต่สิ่งนี้มันทำให้ผู้เขียนมี "กำลังใจ" ที่จะเขียนต่อ
.
.....ถึงมันอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กสำหรับบางคน ดูเป็นผลที่น้อยนิดแค่หลักแสนหลักหมื่น ก็ไม่เป็นไรครับ เรื่องของคุณ แต่ตอนนี้ช่างชิตดีใจกับผลแค่นี้ก็เรื่องของช่างชิตนะ 555++ เพราะช่างชิตไม่เอาตัวเองไปเทียบกับคนเขียนคนอื่นหรอกครับ สไตล์ใครสไตล์มัน เขียนบทความก็เหมือนเล่นกอล์ฟละแข่งกับตัวเองไม่ได้แข่งกับใครแม้จะอยู่ในสนามเดียวกันก็เถอะ!!
.
.....ขอบคุณทุกท่านนะครับ ขอบคุณจากใจจริงทุกๆท่านที่ทนอ่านทนฟังคนบ้าๆบอๆแบบช่างชิตบ่นมา 3-4 ปี บางคนไม่ชอบเลิกอ่านไปก็เยอะละ 555+(คนที่รักกันจริงสิ เดี้ยวต้องมีแจกของ) ขอบคุณ เวป พลังจิต เวป อุดร108 และ เฟสบุ๊ค ที่ช่างชิตได้ใช้พื้นที่ตรงนี้ทำในสิ่งที่รัก วันหนึ่งข้างหน้าอาจจะต้องหยุดเลิกลาไปก็ช่างมัน เป็นเรื่องอนาคต แต่ปัจจุบันนี้ขอทำตรงนี้ให้ดีที่สุดและจะไม่ลืม "กัลยาณมิตรที่ได้จากการเขียนและมิตรภาพดีๆที่พี่ๆน้องๆมอบให้กับช่างชิตเสมอมา" ขอบพระคุณอีกครั้งนะครับ ^.^

 

‪#‎เก็บตกเรื่องที่1‬ "แร่เขาอึมครึม"
.
.....มาแล้วครับ กลับเข้ามาสู่วงจรเดิมละ ก็จะทยอยเขียนเรื่องที่ค้างเอาไว้ช่วงที่ออกทริปติดตามหลวงตา 6-10 พฤษภาที่ผ่านมา วันนี้จะเขียนเรื่องแปลกๆที่ช่างชิตเจอมาตอน ที่หลวงตาไปดูงานแกะพระประธานที่ทำจาก “แร่เขาอึมครึม” ทั้งองค์ ที่อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจณบุรี
.
.....คณะเราเดินทางไปถึงที่หมายประมาณบ่ายสองโมง พอไปถึงบ้านช่างแกะพระ ทางเจ้าของบ้านก็ออกมาต้อนรับหลวงตาด้วยความปิติดีใจ ส่วนช่างชิตก็เดินตรงไปดูพระประธานกับหลวงตาสาท ซักพักหลวงตาก็ให้คนมาเรียกช่างชิต ช่างชิตก็รีบวิ่งไปหาด้วยความเร็วแบบเทเลทับปี้(คือวิ่งแบบการ์ตูน วิ่งไปยิ้มไป) พอไปถึงหลวงตาก็คุยกับช่างชิตตามบทสนทนา ดังต่อไปนี้
.
ลต “ออย มาเอาสิ ของดี” หลวงตาพูดพลางชี้นิ้วไปที่ตู้
.
ชช “เอาอะไรครับ??” ช่างชิตก็ถามพร้อมเดินไปที่ตู้วางโชว์ผลิตภัณท์ของทางบ้านช่าง ก็เห็นพระขรรค์แกะวางอยู่เล่มเดียว
.
ชช “พระขรรค์นี้หราครับหลวงตา??”
.
ลต “ใช่ พระขรรต์นี้ละ มีอยู่เล่มเดียว”
.
ชช “ขอดูหน่อยได้ไหมครับพี่” ช่างชิตเจรจากับทางพี่เจ้าของบ้าน แล้วพี่เขาก็หยิบพระขรรค์ส่งให้ช่างชิต พร้อมกับบอกว่ามีอยู่แค่เล่มเดียว แกะยากพอดีมีคนมาสั่งไว้แต่ไม่ได้มาเอา ช่างชิตก็เอามาพลิกไปพลิกมา คือ แร่ชนิดนี้ช่างชิตก็พอได้ยินเคยอ่านมาบ้าง แต่เราก็ไม่เคยเห็นกับตาไงว่าดีจริงตามที่พูดๆกันมาเปล่า ในใจก็นึก “มันจะดียังไงว่ะ?” นึกในใจนะ นึกในใจ เลยถือพระขรรค์เดินไปหาหลวงตา
.
ชช “หลวงตาครับ มันดีจริงหราครับ?” พูดจบหลวงตาก็เอาพระขรรค์ไปถือ
.
ลต “ก็ดี ของเก่าของธรรมชาติของหายาก เขาก็มีดีในตัวของเขานั้นแหละ” หลวงตาพูดเสร็จพร้อมส่งพระขรรค์คืนมาให้ช่างชิต แล้วเดินไปดูพระประธาน
.
ชช “พี่ครับ นอกจากเป็นแร่หายากแล้วมีอะไรวิเศษอีกละพี่?” ช่างชิตยิงคำถามใส่เจ้าของบ้าน
.
จขบ “หูๆๆ เยอะเลยจ๊ะ พกไว้เวลาโดยแมลงกัดต่อยก็เอาไปดูดพิษได้ เป็นแคล้วคลาดคงกระพันด้วยนะ มีคุณโดยธรรมชาติไม่ต้องปลุกเสกก็มีแล้ว เห็นที่ออกรายการ บางอ้อไหม ที่เขาทดสอบโยนมีดใส่ พอจะถึงตัวแร่ มีดเบี่ยงทางออกเลย เขาก็ทดสอบ 3-4 ครั้งนะ ครั้งสุดท้ายโยนไปแร่หาย” อันนี้จริงไม่จริงไม่รู้นะครับ ช่างชิตยังไม่ได้ดู ใครดูแล้วก็มาเล่าให้ฟังหน่อย
.
ชช “โอ้ย!!” ......ทันใดนั้นเอง ช่างชิตก็เหมือนมีตัวอะไรมากัดที่เท้าซ้าย เลยเอาเท้าขวาเขี่ยแต่มันก็ไม่ออก จึงก้มหน้าลงไปดู เห็นผึ้งตัวเกือบเท่าปลายนิ้วก้อย กำลังเอาก้นบดขยี้เท้าช่างชิตอย่างเมามันส์
.
.....ช่างชิตจึงรีบเอามือดึงมันออกแล้วดึงเหล็กในตาม แล้วอาการปวดแสบปวดร้อนก็เกิดขึ้นอย่างไม่ได้นัดหมาย สร้างความเจ็บปวดกับช่างชิตยิ่งนัก
.
ชช “งานเข้ากูละ” ช่างชิตอุทาน พร้อมเซไปหาที่นั่ง
.
จขบ “เป็นไรค่ะ คุณ!!” เจ้าของบ้านตะโกนถาม
.
ชช “ผึ้งต่อยผมครับพี่ บ้านพี่เลี้ยงผึ้งเปล่าเนี่ย!”
.
จขบ “ไม่ได้เลี้ยงจ๊ะ มันก็มาของมันตามธรรมชาติแหละ คุณเอาแร่ไปวางทับตรงที่โดนต่อยสิ อธิฐานให้เทวดาในแร่ช่วยดูดพิษ ลองดูเลย”
.
ชช “ได้จริงหราพี่ หายจริงหรา?”
.
จขบ “ลองดูเอาเองเลยจ๊ะ” เจ้าของบ้านกล่าวพร้อมกับเดินเอาก้อนแร่มาให้ก้อนหนึ่ง
.
......ช่างชิตก็เอาก้อนแร่มาอธิฐาน “ถ้าศักดิ์สิทธิ์จริงดังคำเขาเล่าว่าขอให้ผมหายปวดด้วยเถอะ” ว่าเสร็จก็เอามาวางทับตรงที่โดนต่อย ไม่นานประมาณหนึ่งนาที (ดูภาพประกอบคอมเม้น จุดขาวๆบนนิ้วโป้ง คือ เหล็กใน)แล้วความรู้สึกฟิวที่จะเล่าก็ คือ ....................
.
..... จะเชื่อไม่เชื่อก็ได้นะ จริงๆในชีวิตช่างชิตโดนผึ้งต่อยมาก็หลายครั้งไม่ใช่พึ่งโดนเปิดซิงครั้งนี้ครั้งแรก โดยปรกติถ้าโดนต่อยแล้วเอาเหล็กในออก ก็จะปวดแสบและบวมอยู่2-3ชั่วโมงก่อนจะค่อยๆหายไป แต่คราวนี้ พอวางก้อนแร่ประมาณหนึ่งนาที แล้วเอาออก มันกับไม่เจ็บไม่ปวดเลย!!
(ดูภาพประกอบคอมเม้น)
.
.....ให้ตายสิ ไม่ได้มาโฆษณาขายของนะ แต่มันหายปวดจริงๆ เออ ก็แปลกดี จากปวดมากๆพอวางแล้วเอาออก มันก็ค่อยหายแบบฟาส เท่านั้นละ รีบวิ่งไปบอกหลวงตา (ก็ไม่รู้จะไปบอกทำไม 555++) หลวงตาก็หัวเราะอย่างเดียว
.....คราวนี้อะดิ เจ้าของบ้านก็บิ้วช่างชิตใหญ่เลย ( ไม่รู้เลี้ยงผึ้งไว้กัดคนมาบ้านเปล่านะ จะได้ขายของ แซวๆขำๆ 555++)
.
.......สรุป ช่างชิตเสียตังเช่ามาจนได้ 5555++ ก็เอามาเล่าสู่กันฟังครับ ฟังคลายเครียดไม่ต้องไปเชื่อไปคิดตามให้ปวดหัวหรอก ช่างชิตจับแร่ไปใจก็นึกไปนะ แร่พวกนี้ใช้เวลาในการสะสมตัวมาเป็นร้อยๆพันๆปี วันดีคืนดีมีคนไปขุดเอามา วันข้างหน้าคงจะหมดไป น่าเสียดายจริงๆ
.
...... ได้ยินมาว่ามี “แร่เขาอึมครึมปลอมด้วยนะ” ให้ระวังการซื้อหา ให้ดูที่มาที่ไปดีๆ ใครมีของแท้ยินดีด้วยนะครับ อย่างน้อยทำเครื่องประดับก็สวยดี
.
..... แต่สำหรับช่างชิตเชื่อหลวงตาครับ หลวงตาบอก “เขาก็มีดีของเขา” บวกกับเหตุการณ์สดๆร้อนๆตรงนั้น ช่างชิตก็ว่า “แร่เขาอึมครึมก็เป็นของดีจริงๆมีดีในตัวของเขาอยู่นั้นแหละ”
.
‪#‎จขบ‬=เจ้าของบ้าน
‪#‎รูปตอนกดเท้าอยู่ที่คอมเม้น‬

 

ภาพประกอบ

 

สนใจอยากจะได้บ้าง ถ้านายช่างมีโอกาสกลับไปที่อำเภอบ่อพลอยอีก
รบกวนช่วยหาแร่เขาอึมครึมมาฝากสักก้อนได้ไหม ช่วยออกตังค์ให้ก่อนด้วย
แล้วจะโอนเงินร่วมบุญด้วยทีหลัง

 

มายืนยันว่า ตามอ่านอยู่ตลอดนะครับ
และก็คงมีคนอ่านอีกมากที่ไม่ได้แสดงตัว แต่ให้กำลังใจช่างชิตอยู่

 

ถ้าได้ไปจะจัดให้นะครับพระอาจารย์

 

ขอบพระคุณจากใจเลยครับผม

 

‪#‎เก็บตกเรื่องที่2‬ ‪#‎หลวงตาสาทปวดแขน‬
.
.....ในวันที่ไปลพบุรี คณะเราไปถึงช่วงบ่าย พ่อแม่ครูบาอาจารย์ก็เข้าพัก ช่างชิตกับพระอาจารย์ลี(ศิษย์หลวงปู่บุญจันทร์และหลวงตา)ก็นวดถวายหลวงตา หลวงตาสาท(ศิษย์ผู้น้องหลวงตา)ก็นวดถวายหลวงปู่ก้าน(หลวงปู่ก้านเป็นศิษย์ในองค์หลวงปู่วัน อุตตโม เดี้ยวตอนหน้าจะมาเขียนเรื่องของหลวงปู่ก้านนะครับรับรองว่ามันส์มากกก) จังหวะที่นวดๆกันไปอยู่นั้น หลวงตาสาทก็ยกแขนขวาขึ้นมาแล้วพูดว่า
.
ลตส “ปวดแขนหม่องนิ ปวดบ่อหายจั่กเทื่อ หมอใด๋มาแก้กะบ่หาย” (ปวดแขนตรงนี้ ปวดมานานแล้วไม่หายซักที หมอที่ไหนมานวดก็ไม่หาย) ท่านพูดพลางจับตรงบริเวณข้อศอกแขนขวาพลาง
.
....แล้วหลวงปู่ก้าน หลวงตา พระอาจารย์ลี ก็ถามอาการว่าเป็นไงมาไง หลวงตาสาทก็เล่ายาวไป ช่างชิตก็บอกท่านว่าไม่รู้ว่าท่านปวดแขน ไม่งั้นจะได้ให้หมอที่มานวดหลวงตาประจำแก้อาการให้
.
...ทันใดนั้น!! หลวงตาวิโรจน์(ศิษย์หลวงปู่บุญจันทร์ศิษย์น้องหลวงตา)ซึ่งนั่งฟังเรื่องตั้งแต่ต้นก็ลุกขึ้นเดินไปหาหลวงตาสาท
.
ลตวิ “ไส สาท หม่องใด๋เดี้ยวนิ?” (ไหน สาท ตรงไหน) หลวงตาวิโรจน์กล่าวด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น พร้อมจับแขนหลวงตาสาทขึ้นมาดู
.
หลวงตาสาทก็ชี้ให้ดูบริเวณที่มีอาการ พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคารพในอาวุโสภันเต
ลตส “หม่องนี่ ผม”(ตรงนี้ ขอรับ)
.
.....แววตาที่เฉียบคมจริงจังประดุจบุรุษผู้ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับหลวงตาสาทของหลวงตาวิโรจน์ทำให้ครูบาอาจารย์ที่นั่งอยู่ตรงนั้นลุ้นระทึก ช่างชิตมองหน้าหลวงตาสาทเห็นแววตาแห่งความหวัง ตัวช่างชิตเองก็นึกในใจว่า “หลวงตาวิโรจน์ท่านคงมีวิชาดีเรื่องเส้นเรื่องเอ็น คงจะมาแก้อาการให้หลวงตาสาท แหม่ เห็นนั่งเงียบตั้งนาน คมในฝักจริงๆ”
.
.....หลวงตาวิโรจน์เมื่อรู้จุดที่เป็นปัญหาก็ยกแขนขวาของตัวเองขึ้นพร้อมกับกล่าวว่า
ลตวิ “ของผมกะเป็นคือกัน เฮ็ดจั่งใด๋กะบ่หาย” (ของผมเองก็เป็นเหมือนกัน รักษายังไงก็ไม่หาย) หลวงตาวิโรจน์พูดพร้อมทำหน้าแบบปล่อยวางในสังขาร แววตาเปลี่ยนไปผิดกับตอนลุกเดินมาหาหลวงตาสาท
.
......เอ๋อ สิครับ ช่างชิต เอ๋อแ..ก 5555++ ประโยคของหลวงตาวิโรจน์ทำให้ครูบาอาจารย์ที่ลุ้นอยู่สตั้นไป 5 วิ ความเงียบเข้าครอบงำมีแต่เสียงแอร์ที่ร้องตะโกนอย่างสะใจ 5555++ จังหวะนั้นเองหลวงปู่ก้านที่นอนอยู่ก็ตะโกนขึ้นมา
.
ลปก “โอ้ยยยยยยย เฮากะว่าแมนเพิ่นสิมาซอยหมู่ บาทแมนเจ้าของกะเป็น ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” (โอ้ยยยยย เราก็นึกว่าจะมาช่วยเพื่อน สุดท้ายตัวเองก็เป็นเอง 555++) หลวงปู่ก้านกล่าวขึ้นมาพร้อมหัวเราะเสียงดัง ทำตาหยี หน้าตาแบบฟินฝุดๆ 55555++
.
......เท่านั้นละ ช่างชิตก็ฮ่า ทั้งวงก็ฮ่า หลวงตาสาทก็นั่งหัวเราะแบบแห้งๆ อารมณ์ท่านก็คงคิดเหมือนช่างชิต นึกว่าหลวงตาวิโรชน์จะเป็นพระเอกขี่ม้าขาว สุดท้ายกับเป็นเหมือนกัน 555++
.
...ครับก็เป็นเรื่องเบาๆ เล่าสู่กันฟัง ให้เห็นมุมน่ารักๆของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ว่าทุกองค์ทุกท่านก็มีความคุ้นเคยสนิทชิดเชื้อกันอย่างพี่น้องที่เดินในสายธรรม แต่ละองค์แต่ละท่านเมื่อ 30-40 ปีก่อน ต่างอยู่ตามป่าตามเขา ต่างทำความเพียรมาอย่างเอกอุ แม้การเดินทางจะลำบากการสื่อสารจะไม่สะดวกเหมือนสมัยนี้ แต่ด้วยสายสัมพันธ์ที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมายาวนาน ทำให้พ่อแม่ครูบาอาจารย์ถึงกันหมด เมื่อถึงเวลาที่ท่านเห็นสมควรแล้ว ต่างก็ออกมาโปรดญาติโยมเหมือนๆกัน
.
....เอ้า ....จบไปครับ ตอนนี้เป็นตอนคอมเมดี้สบายๆ ตอนหน้าเดี้ยวได้อ่านแนวบู๊ๆล้างผลาญ ระเบิดภูเขาเผากระท่อม เป็นที่ถูกอกถูกใจของช่างชิตยิ่งนัก อย่าลืมติดตามกันนะครับ

 

‪#‎เก็บตกตอนที่3‬ ‪#‎ตะกรุดหลวงปู่ก้าน‬ *ยาวหน่อยนะครับ
.
....ตามสัญญาครับ วันนี้มาแนวบู๊Action ทุนสร้างแม้ไม่มหาศาล แต่รับประกันว่า “เล่นจริง เจ็บจริง” แน่นอน เรื่องราวจะเป็นยังไงมาอ่านกันเลยครับ
.
....หลวงปู่ก้าน วัดถ้ำเป็ด จังหวัดสกลนคร ท่านเป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่หลวงตานับถือมาก(75 ปี 55 พรรษา) ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่วัน อุตตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม เป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่มีพลังจิตสูงไม่ธรรมดา ท่านอยู่ป่าเขามาตลอดผ่านการทำความเพียรมาอย่างเอกอุ วัตถุมงคลของท่านที่ช่างชิตทราบมีไม่กี่รุ่น เพราะท่านอนุญาตยากมาก ประวัติท่านในเนตก็มีน้อย แต่ที่ทำให้คนภายนอกและช่างชิตรู้จักท่าน นั้นคือ “ตะกรุดจารมือ” หรือ “ตะกรุดหลวงปู่ก้าน”
.
....ตะกรุดหลวงปู่ก้าน จารเสร็จไม่ต้องเสก ขลังมาก แม้แต่หลวงตายังออกปาก(ที่ช่างชิตรู้หลวงตาได้ตำราคาถาบทนี้จากหลวงปู่ก้านท่านประสิทธิ์มอบให้แล้วครับ แต่หลวงตาจะเขียนไม่เขียนช่างชิตไม่รู้นะ เพราะเห็นว่าเวลาเขียนต้องกลั้นหายใจไปด้วย หลวงตาเคยอ่านให้ฟังอยู่ ลืมละจำไม่ได้) ที่สำคัญท่านทำให้คนยากมากด้วยนะครับ คนที่ได้ไปก็หวงแหนกัน มีประสบการณ์ออกมาเรื่อยๆ ทุกๆแนว แต่จะออกทางบู๊ซักมากกว่า ใครที่อยากได้จริงๆต้องซื้อแผ่นจารไปหาท่านที่วัด เขียนชื่อทิ้งเอาไว้ ท่านว่างท่านจะจารให้ บางคนรอหลายๆเดือนหรือเป็นปีๆถึงจะได้ก็มี
.
.....ช่างชิตเองแม้จะได้ยินชื่อหลวงปู่มานานแต่ก็ไม่กล้าคุยกับท่านเท่าไร เพราะเป็นโรคกลัวพระผู้เฒ่าพระผู้ใหญ่ 5555++ แต่พอเหตุการณ์หลวงตาสาทปวดแขน ก็กล้าคุยกับท่านแล้วครับ 555++ วันงานที่ระยองเป็นจังหวะที่ดีที่คุณเจษลูกสาววัยน่ารักพี่ๆน้องๆในกลุ่มเรา ได้ไปทำบุญและถือแผ่นจารไปด้วย ก็กราบเรียนขอท่าน วาสนาดีมากๆ ท่านเมตตาครับ ช่างชิตก็มวยจังหวะสองอยู่แล้ว ก็ขอแจมกับคุณเจษด้วย 555++ (ขอบพระคุณคุณเจษด้วยนะครับ)
.
ลปก “ มาอยากใด่ตะกรุดตะกึกหยั่งอีก คนแหงฮ้อนๆอยู่ มีแล้วติแผ่น” (เอ๊ะ!! พวกแกนิ มาอยากได้อะไรตะกรุด คนยิ่งร้อนๆอยู่ มีมาแล้วหราแผ่นที่จะให้จาร)หลวงปู่ท่านกล่าวหลังจากนั่งลงในห้องพักรับรอง ช่างชิตกับคุณเจษและพี่เทพ(น้องชายของพี่ชายใจดี)ก็นั่งคุกเข่าใกล้ๆท่าน และก็มีหลวงตา พระอาจารย์จำรัส พระอาจารยลี นั่งพักใกล้ๆ
.
คจ “มีแล้ว ผม” คุณเจษกล่าวพร้อมยื่นแผ่นทองแดง แผ่นเงิน แผ่นทอง ที่เตรียมมาให้หลวงปู่
.
ลปก “ไป่เอาไม้บรรทัดกับปากกามา” (ไปเอาไม้บรรทัดกับปากกามา) หลวงปู่พูดเสร็จ ช่างชิตก็รีบวิ่งไปหามาให้ท่าน
.
....พอหลวงปู่ได้รับแผ่นจารไป ท่านก็ลงมือทำให้แล้วก็พูดกับช่างชิตว่า *ต้องบอกก่อนนะครับ ว่าท่านพูดเป็นการภายในกับศิษย์ที่อุปัฏฐากในงานนี้ คือช่างชิต ท่านไม่ได้พูดมากล่าวโฆษณาโอ้อวดเพื่อเรียกทรัพย์เรียกของกำนัลแต่อย่างใดในที่สาธารณะนะครับ ให้เข้าใจตรงกัน*
.
ลปก “ตะกรุดเฮาจารแล้วบ่ต้องเสก สวดมนต์เหมิดคืนก็บ่ขลังทอ” (ตะกรุดของเราจารเสร็จแล้วไม่ต้องเสก สวดมนต์หมดทั้งคืนก็ไม่ขลังสู้)
.
ชช “ไม่ต้องเสกเลยหราครับหลวงปู่ สาธุครับ แล้วเขาเรียกตะกรุดอะไรครับ?”
.
ลปก “ห่วย บ่ต้องมาอยากฮู้ดอกว่าตะกรุดหยัง เซาถาม ฮันจะให่เฮ็ดให่ แต่เขียนให่นิกะคักแล่ว” (เอ๊ะ!! ไม่ต้องมาอยากรู้หรอกว่าตะกรุดอะไร เลิกถามได้แล้วถ้าจะให้ทำให้ ที่ทำให้นิก็ดีมากๆแล้ว)
.
.....ครับ คือ ช่างชิต โดนหลวงปู่ว่า 5555++ จากนั้นก็นั่งเงียบๆ ท่านก็จารไป ช่างชิตสังเกตุท่านตั้งใจมาก เวลาจารก็จะเหมือนท่องอะไรในปากไปด้วย(นี่ละที่บอกไม่ต้องเสกก็ขลัง จิตท่านเพ่งท่านส่งพลังลงไปหมดตั้งแต่จารแล้ว) ตรงไหนจารไม่ติดจารไม่เต็มท่านก็ลงย้ำให้ชัดให้เต็ม ซักพักท่านก็พูดขึ้น
.
ลปก “เด็กน้อยแถววัด .38 หน่ำกันมีแต่เสียงแชะๆ รถตำกันมุ่นเหมิดซ่อมแต่รถคนซือๆ ค่นฆ่ากันสปาต้าใส่กันมีแต่ฮอย ซุ้มเล่นของผีปอบ ของต่ำ ใกล้กะบ่ใด๋มันฮ้อนมันหนีเหมิด” (เด็กวัยรุ่นแถววัยดวลปืน.38กันมีแต่เสียงแชะๆ คนขับรถชนกันรถพังทั้งคันก็ซ่อมแต่รถคนไม่เป็นไร คนฆ่ากันมีดสปาต้าฟันกันมีแต่รอย พวกคนเล่นของ คุณไสยของต่ำ ผีปอบ อยู่ใกล้คนมีตะกรุดนี้ไม่ได้ มันจะร้อนทนไม่ได้)
.
ชช “ป้าดดดดดดดดดดดด แล้วมีข้อห้ามไหมครับ หลวงปู่?” ช่างชิตเอ่ยถามด้วยแววตาลุกวาว
.
ลปก “มี ห่ามกินเหล่า ห่ามไปเที่ยวซ่อง อย่าใส่ไป” (มี ห้ามกินเหล้า ห้ามไปสถานบริการสบายตัว อย่าใส่ไป)
.
ชช “ไปผับได้ไหมครับ?”
.
ลปก “มา ผับๆ แพล็บๆ อีหยั่งเดียวนิ” (จะมาผับๆอะไรอีกพูดไม่รู้เรื่อง) โดนหลวงปู่ว่ารอบ 2 โอ้ยเนาะ 5555++
.
....แล้วหลวงตาที่นั่งใกล้ๆก็พูดขึ้นสำทับ เพราะจังหวะนั้นพี่เทพน่าจะไปถามหลวงตาประมาณว่าถ้ายังโสดไปเที่ยวได้ไหมบาปไหม
.
ลต “การไปเที่ยวที่แบบนั้น แม้เราจะไม่มีครอบครัว แต่ก็อาจทำให้ผิด ศีลข้อ 3 ได้ด้วยนะ เพราะเราอาจไปรักไปชอบคนที่เขามีเจ้าของอยู่แล้ว หรือคนที่เค้ามีผู้ปกครองเลี้ยงดูอยู่ไปพรากของเขามาก็ผิด แม้เราไม่ไปชอบเขาเขามาชอบเราแต่เขามีเจ้าของอยู่แล้วหรือยังอยู่ในการเลี้ยงดูอุปการจากผู้ปกครองอยู่ มันก็เป็นโทษทำให้คนที่เขาหวงอยู่มาโกรธมาแค้นเรา เข้าใจไหม ออย!!” คนนั่งกันเยอะแยะทำไมต้องมาลงที่ช่างชิตด้วยก็ไม่รู้ 555++
.
ลปก “มื้อนั้น ลงไปนรก ไปถามคนในนั้นว่าเป็นหยั่งคือได้มาอยู่หนี่ มันบอก “ผิดศีลข้อ3 ข้าน้อย” นั้นเห็นบ่ หลวงปู่นั่งสมาธิลงไปนรก ถามมัน มันยังรู้วาเจ้าของผิดศีลข้อ3 บ่ธรรมดาเด้” (คืนนั้น ลงไปในนรก ไปเจอคนที่ตกนรกคนหนึ่งก็ถามว่าทำอะไรถึงได้ลงมาอยู่ในนี้ เขาก็บอกผิดศีลข้อ3 เห็นไหมละ หลวงปู่นั่งสมาธิถอดจิตลงไปถามเขา เขายังรู้เลยว่าผิดศีลข้อ3 อย่าประมาทกันนะ)
.
ชช “ครับๆ ถ้าจังหวะมีเหตุให้ได้ไปแบบฉุกเฉิน ก็ขอบารมีหลวงปู่เมตตาคุ้มครองต่อด้วยนะครับ ” ก็นะ ถ้าไปไหนไม่ได้ก็ไปบวชละ 555++
.
ลปก “มีคนใด๋ตะกรุดไป่ เอาไป่ให้น้องซายแขวน น้องฮั่นมักไปเที่ยวซ่อง มันบอกใส่ไปแล้วฮ้อน บ่เป็นตาอยู่ต้องถอดออก” (มีคนได้ตะกรุดไปเอาไปให้น้องชายแขวน แต่น้องชายเป็นคนชอบเที่ยวสถานสบายตัว พอใส่ไปแล้วมันร้อนอึดอัด ต้องถอดออก)
.
ลปก “ยูวัด คนเอาแผ่นมาเต็มๆๆๆๆๆ เฮาเขียนให้บ่ทัน วัดนั้น วัดนี่กะมาขอให้ซ่อยหลาย แผ่นทอง แผ่นเงิน เต็มวัดเหมิด กองกันติดซือไว้3ปีกะเขียนบ่แล้วหลายโพด ผู้ใด๋ฟ้าวหลาย เฮาบอกไปเขียนเองเด้อ” (อยู่วัดคนเอาแผ่นมาให้เราจารให้มากมาย จนเขียนไม่ทัน วัดนั้นวัดนี่ก็มาขอให้ช่วย พวกแผ่นทองแผ่นเงินติดชื่อไว้ กองเต็มวัดไปหมด3ปีก็คงเขียนไม่หมด ถ้าใครอยากได้แบบปัจจุบันทันด่วน เราบอกไปเขียนเอาเองนะ)
.
ชช “แล้วแขวนไหนครับ แขวนเอวหรือคอ?”
.
ลปก “ใส่คอ เอาไปใส่หลอดเด้อ บ่งั่นกะถักงามๆ” (แขวนคอ เอาไปใส่หลอดนะ ไม่งั้นก็ไปถักหุ้มสวยๆ)
.
.....แล้วท่านก็จารต่อ ดูท่านจารไปดอกนึ่งก็ใช่เวลานานเหมือนกันนะครับ 10 นาทีเห็นจะได้ แล้วชุดแรกก็เสร็จ คุณเจษรับไปในฐานะคนที่ไปขอหลวงปู่และเจ้าของแผ่น ทำให้คุณเจษกลับบ้านไปด้วยความปิติยิ่งนัก เหลือแต่ช่างชิตกับพี่เทพที่นั่งดูหลวงปู่จารไปเรื่อยๆ แล้วเราสองคนก็สลับลงไปข้างล่างบริเวณงาน ซักพักช่างชิตก็ขึ้นมาหาหลวงปู่ ท่านกำลังจะจารดอกสุดท้ายเสร็จพอดี
.
ชช “หลวงปู่ครับ ของพี่ต่าย(แฟนของพี่ชายใจดี)ทำไมดอกเล็กละครับ?”
.
ลปก “ของแม่ยิง อันน้อยๆ” (ของผู้หญิงจะอันเล็กๆ)
.
ชช “หลวงปู่ของผู้ชายก็แนวบู๊เลยใช่ไหมครับ?”
.
ลปก “ห่วย กะห้ามไปหาเรื่องคนเด้อ ของป้องกันเจ้าของ” (เอ๊ะ!! ห้ามใส่ไปหาเรื่องคนนะ เอาไว้ป้องกันตัวพอ)
.
.....ไม่ถึง 15 นาที แล้วหลวงปู่ก็เขียนเสร็จดอกสุดท้าย ท่านเอาขึ้นมาตรวจดูพร้อมท่องอะไรในปาก ก่อนจะม้วนแล้วส่งให้ช่างชิต
.
ลปก “เฮาบ่ใด๋เฮ็ดให้คนง่ายๆเด้อ เอาไปใส่คอไว้ดีๆ” (เราไม่ได้จะมาทำให้ใครง่ายๆนะ เอาไปแขวนคอติดตัวไว้ดีๆ)
.
...ช่างชิตก็รับแล้วก้มกราบท่านในความเมตตาไม่มีประมาณ สุดท้ายขอเอาคำสอนที่หลวงปู่สอนช่างชิตเป็นการส่วนตัวและเอามาจากในกูเกิ้ล มาเป็นของฝากแทนตะกรุดหลวงปู่ที่ไม่มีมอบให้นะครับ ใครมีความสามารถมีกำลังภายในยังไงก็ไปขอท่านเอานะ ช่างชิตมีแต่คำสอนท่านมาฝากขอเขียนเป็นภาษาราชการเลยแล้วกันนะครับ สะกดเป็นภาษาSoundTrackลำบ๊ากกกกกกกกลำบาก 5555++
.
“ทำบุญทำทาน เพื่อเป็นเสบียงไว้ในชาติหน้า ชาติหน้าจะได้มีใช้ ไม่ทำมันก็หมดมันก็อดก็อยาก เจ้าของยังต้องกลับมาเกิดอีก ก็ต้องพากันทำเอาไว้นะ ไม่งั้นชาติหน้าจะลำบากอดอยาก ของที่เราใช้ในชาตินี้ก็เป็นของเก่าๆที่เจ้าของทำไว้ในชาติก่อนๆ”
.
“ญาณโลกีย์อย่าไปสนใจมันเสื่อมได้ เสื่อมมาก็เหมือนคนธรรมดานี่เอง กามราคะมันสุขแปปเดียว พระเณรแม่ชีอยู่ไม่ได้ก็เพราะตัวนี้ ให้อดข้าว อดนอน อย่าไปให้อาหารมัน เอาจนมันอ่อน มันไม่มีอาหารมันก็ไม่มีกำลัง หลวงพ่อเองยังอดนอนมาเปนพรรษา ฉันแค่5คำ”
...........................

 

‪#‎เก็บตกตอนที่4‬ ‪#‎ถ้ำสาริกา‬
.
.....เสร็จงานจากลพบุรี คณะเราก็จะเดินทางไปที่ระยอง แต่ก็มีทริปแวะระหว่างทางคือ หลวงปู่บุญมาท่านอยากไปถ้ำสาริกา ก็ตกลงกันว่าจะไปถ้ำสาริกาก่อนค่อยไประยอง รถที่ไปมีด้วยกัน3คัน คันที่ช่างชิตนั่งไปเป็นรถตู้มี หลวงตา หลวงตาสาท พระอาจารย์สอ พระอาจารย์ลี และพี่อ๊อด เป็นคนขับรถ พระอาจารย์ลีนั่งหน้าคู่กับพี่อ๊อด อีกคันก็หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม อีกคันก็ หลวงปู่ก้าน หลวงตาวิโรจน์ พระอาจารย์สำเร็จ
.
*(หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม วัดป่าสีห์พนมประชาคม ต.บงใต้ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร 89 ปี 65 พรรษา ท่านเป็นศิษย์พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลายรูป เช่น หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู, หลวงปู่หลุย จันทสาโร วัดถ้ำผาบิ้ง จ.เลย และหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม จ.อุดรธานี เป็นต้น)
.
....ออกเดินทางกันมาเรื่อยๆ จนมาถึงทางแยก(จำชื่อแยกไม่ได้ต้องขออภัยครับ) หลวงตาก็บอกว่าเลี้ยวซ้ายไปทางนี้ดีกว่า(จำชื่อเส้นทางไม่ได้อีกละ555++) เพราะมันใกล้ถ้าตรงไปก็จะไกล พี่อ๊อดก็เลี้ยวซ้ายออกมา ขับมาได้ซักพัก ก็มีโทรศัพท์เข้าเครื่องพี่อ๊อด เป็นน้าสมหมายคนขับรถหลวงปู่บุญมาโทรมา จับใจความได้ว่า หลวงปู่บุญมาท่านบอกทำไมพากันเลี้ยวมาทางนี้ทำไมไม่ตรงไป พี่อ๊อดคุยซักพักก็จอดรถเข้าข้างทาง
.
....ช่างชิตก็ งง ว่าจอดทำไม ซักพักเห็นหลวงปู่บุญมาเดินมาซ้ายมือของรถแล้วท่านก็มาเปิดประตูตรงที่พระอาจารย์ลีนั่งอยู่ ซึ่งตอนนั้นพระอาจารย์ลีกำลังพักสายตา พอเปิดประตูได้เท่านั้นละ
.
ลปบุญมา “แมนพากันมาทางนี่เฮ็ดหยั่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!” (ทำไมถึงพากันมาทางนี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ) เป็นสำนวนที่ทรงพลังเสียงเซอร์ราวดังกังวานสะเทือนทั่วไตรภพ ตามเอกลักษณ์ของท่าน(คือถ้าใครรู้จักหลวงปู่บุญมา เคยไปกราบท่านบ่อยๆจะรู้ครับว่า จริตท่านจะเป็นแบบนี้ ถ้าอะไรดูนอกลู่นอกทาง หลวงปู่จะออกแนวฮาร์ดคอร์ทันที)คิดเอาเองละกันเสียงดังไม่ดังจนช่างชิตที่นั่งหลังสุดสะดุ้ง
.
.....แล้วพระอาจารย์ลีที่พักสายตาอยู่ นั่งตรงนั้นจะเป็นยังไง คงนึกภาพออกนะครับ 555++ (เขียนไปก็นึกสงสารพระอาจารย์ไป 555++)พอหลวงปู่ท่านตะโกนเสร็จ หลวงตาก็อธิบายให้ฟังว่าทางนี้ก็ไปได้เหมือนกัน อธิบายซักพักจนหลวงปู่เข้าใจ ท่านก็เดินกลับรถ สรุปไปทางนี้ต่อ พอหลวงปู่ไปเท่านั้นละ พระอาจารย์ลีหันหน้ามาด้านล่าง สีหน้าแบบคนกำลังเจอเหตุการณ์ระทึกสดๆร้อนๆ เหมือนคนเผชิญฝันร้ายที่น่ากลัวจนตกใจตื่น
.
พอจ ลี “โอ้ยยยย ผมตกใจหมด เกือบช็อคตาย ประตูก็ดันไม่ได้ล็อคไว้ด้วย ตายๆ คนเป็นโรคหัวใจตายได้เลยนะนิ” ท่านพูดไปหัวเราะแห้งๆไปบวกกับใบหน้าอย่างนั้น ในรถก็หัวเราะกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
.
....พอสภาวะเริ่มกลับมาปรกติ ช่างชิตก็ถามหลวงตา เพราะสงสัยตั้งแต่นั่งออกมาแล้ว
ชช “หลวงตาครับ ถ้ำสาริกา หลวงปู่บุญมา ท่านอยากมาทำไมครับ?”
.
ลต “ท่านอยากมานั่งภาวนาเพราะเป็นถ้ำที่หลวงปู่มั่นท่านได้ อนาคามี ท่านมาสำเร็จอนาคามีที่ถ้ำตรงนี้ แล้วท่านก็ได้ปราบ เจ้าที่พญาผีใหญ่ที่ดูแลภูเขาบริเวณนั้นด้วย”
.
พอจสอ “ผีมันว่ามันใหญ่สุดแถวนี้ เลยมาไล่หลวงปู่มั่น หลวงปู่มั่นเลยปราบเอาสอนธรรมมะจนยอม” พระอาจารย์สอที่นั่งติดกับช่างชิตสำทับ ใครอยากอ่านเพิ่มเติมก็ลองหาดูในกูเกิ้ลนะครับ
.
....พอไปถึงถ้ำสาริกา ช่างชิตก็พึ่งรู้ว่าเป็นวัดด้วย ชื่อ วัดถ้ำสาริกา บรรยากาศด้วยรอบเต็มไปด้วยธรรมชาติ เงียบสงบ แล้วคณะพวกเราก็พากันเดินขึ้นเขาไป พอไปถึงหน้าถ้ำบริเวณที่หลวงปู่มั่นท่านเคยมานั่งภาวนา หลวงปู่บุญมาพร้อมพ่อแม่ครูบาอาจารย์ก็เข้าสมาธินั่งภาวนากัน ลืมบอก ครูบาอาจารย์ที่มานั่งภาวนาด้วยกันมีดังนี้ ลป บุญมา ลป ก้าน ลต ลตสาท ลต วิโรจน์ พอจ สำเร็จ พอจ สอ พอจ ลี พอพ่อแม่ครูบาอาจารย์นั่ง ช่างชิตก็นั่งเฝ้าครับไม่ได้นั่งภาวนาด้วย 5555++
.
.....ช่างชิต นั่งบ้าง ลุกบ้าง ก็เดินแถวๆนั้นละตาก็ดู หลวงปู่ หลวงตา พากันนั่งนิ่งสงบราวหุ่นก็ไม่ผิด นั่งไปได้ซักพักนานพอดู พอครูบาอาจารย์พากันถอดจิตออกจากสมาธิ กราบรูปเหมือนหลวงปู่มั่นแล้วก็เดินทางกลับ ช่างชิตจับเวลาตอนที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์นั่งได้ 1.30 ชั่วโมง ต้องบอกว่าสุดยอดจริงๆ นั่งไม่มีกระดุกกระดิกเลย แล้วคณะเราก็เดินทางถึงระยองก็มืดพอดี พ่อแม่ครูบาอาจารย์ก็เข้าพักผ่อน ช่างชิตก็จัดงานด้านล่างต่อ
.
.....ครับก็เป็นบุญที่ช่างชิตได้มีโอกาสไปกราบสถานที่ๆ แม่ทัพธรรมใหญ่ หลวงปู่มั่นท่านเคยมาภาวนารบกับกิเลส ได้เห็นแล้วก็นึกภาพไป 100 กว่าปีก่อนว่าคงจะลำบากกว่านี้เป็นร้อยๆเท่า แต่หลวงปู่มั่นท่านก็ยังมา
.
..... สิ่งที่ยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ที่ทำให้คนธรรมดาอย่างพวกเราสามารถก้มกราบไหว้ได้สนิทใจ ไม่ใช่การที่ท่านเหาะเหินเดินอากาศ ปล่อยแสง ดำดิน ได้หรอกครับ แต่เป็น “พลังที่ยิ่งใหญ่ภายในดวงจิตดวงใจของท่านตั้งหากที่ทำให้พระอริยะเจ้าแตกต่างจากคนธรรมดา”
.
.....ก็เก็บตกไป 4 เรื่องแล้ว ถ้านึกได้อีกจะมาเขียนต่อนะครับ ถ้านึกไม่ออกก็จะมาบอกรายละเอียดวัตถุมงคลที่จะแจก ส่วนธรรมะคำสอนหลวงตาก็มีพี่จุมพฏ Jhumpot Soleil เขียนในเฟส ช่างชิตก็จะนำมาฝากพวกเราอยู่เรื่อยๆ สลับสับเปลี่ยนกับเรื่องราวต่างๆที่ช่างชิตเขียนเอง จะได้ไม่น่าเบื่อไม่จำเจครับ เอาทั้งรสพระธรรมขัดเกลาใจและรสโลกธรรมให้บันเทิงใจตามประสาคนใฝ่ดีแต่ยังไม่ได้พ้นกิเลส ยังไงต้องขอบพระคุณพี่ชายใจดีพี่จุมพฏของช่างชิตด้วยนะครับ ไปก่อนครับแล้วเจอกันใหม่
...........

 

#‎ของที่จะแจกชุดที่1‬ ‪#‎หลวงปู่เล็ก‬ วัดทำนบ ** ติดตามไปเรื่อยๆนะครับรอฟังกติกา
.....สวัสดีเช้าวันอังคารพี่ๆน้องๆทุกท่าน มาถึงช่วง”แนะนำของที่จะแจกกัน”ก่อนดีกว่า วันนี้เริ่มจากชุดแรกก่อนเลยครับ ชุดวัตถุมงคลของหลวงปู่เล็ก วัดทำนบ งานครั้งนี้ช่างชิตได้ความเมตตาจากพี่ๆใจดี ขอนำวัตถุมงคลของหลวงปู่ ที่คณะผู้สร้างตั้งใจทำมาเพื่อเป็นทานให้หลวงปู่ได้แจกสำหรับคนที่ไปกราบทำบุญกับท่านที่วิชัยยุทธ “ดีทั้งเจตนา ดีทั้งมวลสาร ดีทั้งผู้เสก” ของแบบนี้จะหาจากที่ไหนได้ไม่รู้ แต่ที่ตรงนี้มีมาให้แล้วครับ ของที่ช่างชิตจะแจกมี
.
1พระปิดตามหาเศรษฐีเนื้อผงพุทธคุณ(รวมโคตรผงจากทั่วประเทศกันเลยทีเดียว)
2เม็ดยาจินดามณี(สูตรวัดกลางบางแก้ว100%ต้นทุนแพงมากและทำยากมากด้วย)
3สีผึ้งมหาเศรษฐี(รวมสีผึ้งจากของเก่าสายวิชาแข็งๆทั่วประเทศนำมาหุงในฤกษ์มงคลด้วยพิธีกรรมเข้มขลัง)
**ของทั้งหมด รายละเอียดการสร้าง มวลสาร จะแจ้งให้ทราบภายหลัง
.
....ของแบบนี้ถ้าไปเช่าหาในสนามพระ กำเงินหลักพันหลักหมื่น ยังหาไม่ได้เลยครับ แต่ช่างชิตมีมาแจกพี่ๆน้องๆในกลุ่มกันแล้วครับ ส่วนใครจะได้ไปแล้วแต่วาสนา ธรรมจัดสรร เพราะของมีจำนวนจำกัดและทีมผู้สร้างหวงมาก กลัวคนที่ได้ไปไม่เห็นคุณค่า (ขอบพระคุณ พี่กานสุดหล่อ และ พี่พุธน่ารักสุดซอย ด้วยครัชในความเมตตาในครั้งนี้)
.
....ของๆหลวงปู่เสกสุดยอดไม่สุดยอด แม้กระทั้ง หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป พระอริยะเจ้าที่มีพลังจิตสูง หลวงปู่ชอบเองท่านเป็นผู้รับรอง “ท่านเปลี่ยนเป็นฤษีมาหลายชาติ สำเร็จกสินไฟ ตอนมาอยู่กับเรา ถ้าท่านเปลี่ยนโกรธใครแล้วจ้องเขา คนๆก็อาจตายได้ เราจึงสอนให้เดินภาวนาใช้แผ่เมตตาคลุม เหมือนหลวงปู่มั่นสอนหลวงปู่ฝั้น”
หลวงปู่ชอบพระอรหันต์ผู้มากฤทธิ์ออกปากขนาดนั้น แล้วหลวงปู่เปลี่ยนจับพระปิดตาของหลวงปู่เล็กแล้วบอกว่า
“เย็นยะเยือกเหมือนน้ำแข็ง!!” ระดับหลวงปู่เปลี่ยนออกปากนิ ช่างชิตให้เครดิตหมดใจครับ
พระอาจารย์สุริยันต์ วัดฉัพพรรณรังสี ผู้มีเจโตแจ่มใส ได้มโนมยิทธิ จับพระหลวงปู่ถึงกับกล่าวว่า
“โฮ้ เสกขนาดนี้กันระเบิดนิวเคลียร์ได้เลยนะเนี่ย” ก็เอามาย้ำให้กันอ่านอีกรอบ
.
.....หลวงปู่เองช่างชิตก็นับถือว่าเป็นครูบาอาจารย์ที่ไปกราบไหว้เป็นประจำและกราบที่ฝ่าเท้าได้อย่างสนิทใจ วันแรกที่ไปกราบหลวงปู่แบกทิฐิเต็มหัวไปเลย แต่พอไปเจอท่านมองตาท่าน เซ้นมันบอก ไม่ต้องเขียนยาว สรุปได้เลยว่า “องค์นี้ของจริง เป็นที่พึ่งทางใจได้แน่นอน”
..
.....กล่าวกันพอสมควรแล้ว ทั้งของๆหลวงปู่ที่จะแจกก็รู้แล้วว่ามีอะไรบ้าง ทั้งความ”ลงใจ”ของช่างชิต ช่างชิตก็อยากให้พี่ๆน้องๆทุกท่าน ได้รู้จักหลวงปู่ให้มากขึ้นกว่าเดิมครับ ขอนำบทความที่ลูกศิษย์หลวงปู่ได้เขียนไว้ในโลกโซเชียล (ต้องขออนุญาตและขอบพระคุณ พี่เบ็น วิเศษ เจ้าของบทความด้วยนะครับ)และช่างชิตเอามาปรับแต่งให้สั้นลง ให้พี่ๆน้องๆได้อ่านกัน (ถ้าสนใจก็ไปหาข้อมูลเพิ้มเติมในกูเกิ้ลต่อได้) ยังไงติดตามกันเลยครับผม
................
.
....ประวัติและเรื่องเล่าของ หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ
.
พระครูวิชาญพัฒนกิจ หลวงปู่ดิเรก(เล็ก) จนฺทสโร อายุ 97 ปี 77 พรรษา วัดทำนบ ต.สี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทองหลวงปู่เล็ก จนฺทสโร นามเดิม ดิเรก แซ่อึ๊ง เกิดเมื่อ วันอังคารที่ 24 มิถุนายน แรม 11ค่ำเดือน 7 พุทธศักราช 2462 ท่านเกิดที่ตำบลพระประโทนเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ทางบ้านหลวงปู่มีฐานะดีมั่งคั่ง โดยหลวงปู่ท่านมีความเกี่ยวเนื่องเป็นเครือญาติกับหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว หลวงปู่บวชพระที่วัดประดู่ฉิมพลี โดย มี สมเด็จพระวันรัต (กิมเฮง เขมจารี) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อพระครูวิริยกิตติ หรือหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี พระกรรมวาจาจารย์
.
...หลวงปู่เล็กท่านเป็นพระเถราจารย์ซึ่งเก็บตัวเงียบมานานจนปัจจุบัน ท่านไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับเรื่องวัตถุมงคลมากนักประชาชนทั้วไปทราบกันเป็นอย่างดีว่าหลวงปู่ท่านเก่ง วาจาสิทธิ์ และดุมาก แม้แต่หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ยังเคยไล่ให้คนบ้านทำนบที่ไปกราบท่านที่สิงห์บุรีให้มากราบหลวงปู่เล็กไม่ต้องมากราบท่านไกลถึงสิงห์บุรี เคยมีศูนย์พระเข้าไปวุ่นวายกับท่าน ท่านตะเพิดออกมาจนไม่มีใครกล้าเข้าไปอีก
.
....หลวงปู่ท่านเป็นพระเถระผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ครูบาอาจารย์ในยุคนี้ล้วนแต่เคารพในหลวงปู่ อาทิ หลวงพ่อมี วัดม่วงคัน หลวงพ่อทองหยิบ วัดบ้านกลาง หลวงพ่อ เกลื่อน วัดรางฉนวน หลวงพ่อเสียน วัดมะนาวหวาน ล้วนแต่เคารพนับถือหลวงปู่ ด้วยพรรษาที่อาวุโสมาก และจริยาวัตรที่งดงามของหลวงปู่ แม้กระทั่งวิทยาคม หลวงพ่อทุกรูปทราบดีด้วยเป็นผู้มีวิทยาคมเหมือนกัน ว่าหลวงปู่เล็กท่านเป็นอย่างไร หลวงปู่เสียน วัดมะนาวหวาน จะเรียกหลวงปู่เล็กว่า “ลูกพี่”
.
..อาจารย์ท่านแรกๆของหลวงปู่เป็นฆราวาสที่มีชื่อเสียงมากสมัยนั้น แม้แต่หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี และหลวงปู่สด วัดปากน้ำ ยังนับถือ และถือเป็นอาจารย์ฆารวาสของหลวงปู่ทั้งสองด้วย ท่านนั้นคือ หลวงสักทัศน์พลยุทธท่านเป็นนายทหารเก่าที่มีวิทยาคมสูง ซึ่งก่อนที่หลวงปู่จะเรียนสรรพวิทยาต่างๆจากหลวงสักทัศน์พลยุทธนั้น หลวงปู่ท่านเคยเป็นไข้รากสาด และรักษาไม่หายสมัยนั้นท่านยังเป็นสามเณร อาจารย์สอนหนังสือของหลวงปู่ที่วัดมหาธาตุ จึงพาหลวงปู่ไปหาหลวงสักทัศน์พลยุทธ ในการรักษาครั้งนั้นยังความประหลาดใจกับหลวงปู่เป็นอย่างมาก โดยคุณหลวงได้เขียนกระดานชนวนลบผง ผสมน้ำมนต์ให้หลวงปู่ฉัน ซึ่งผงธรรมดาๆเมื่อผสมน้ำมนต์และฉันเข้าไปนั้น ผงธรรมดาๆกลับมีรสชาติกลับกลายเป็นพิมเสนอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
.
.... หลังจากนั้นหลวงปู่ก็ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของคุณหลวงศึกษาสรรพวิชาด้านการรักษาโรค และยังได้ร่ำเรียนวิทยาคม กับทั้งหลวงปู่โต๊ะ และ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ หลวงปู่เล็กท่านจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลายพรรษา จนท่านได้เล่าเรียนวิทยาคมจากหลวงปู่โต๊ะ สรรพวิทยาคมหลายแขนง เช่น การถอนคุณไสย ยันต์ตรีนิสิงเห การเสกพระปิดตา และยันต์ นะ ปัดตลอด ซึ่งหลวงปู่เล็กท่านชำนาญยันต์นะปัดตลอดนี้มาก จนมีครั้งหนึ่ง หลวงปู่ได้ถ่ายทอดยันต์นี้ให้กับลูกศิษย์ของท่าน ตอนที่ท่านมาอยู่ วิเศษชัยชาญแล้ว หลวงปู่ท่านได้ถ่ายทอด ยันต์ นะ ปัดตลอด ให้กับ หลวงพ่อเกษม วัดม่วง จนเป่ายันต์ใส่ใบพลู จนทะลุติดในใบพลูจนตลอดเก้าใบ
.
.... ยันต์นะปัดตลอดนี้ ถ้าผู้ที่สำเร็จแล้ว สามารถจะเป่ายันต์ให้ไปติดที่ใดก็ได้ตามแต่ใจนึก และอธิฐานยันต์นี้ให้มีอิทธิคุณในทางใดก็ได้ ทั้งโภคทรัพย์ มหานิยม คงกระพัน...ผู้ที่ทำได้ท่านก็เงียบ ไม่เอามาประเจิดประเจ้อ ให้เกิดความวุ่นวายกับตนเอง ต้องไปเป็นขี้ข้าเขา ใช้ให้จารโน่นทำนี่ ทำให้เกิดความไม่สงบ หลวงปู่ท่านเคยบ่นๆกับคนแถวๆวัดทำนบในทำนองนี้ และเป็นอีกสาเหตุที่ท่านไม่อยากวุ่นวายแบบพระเกจิยุคปัจจุบัน
.
....หลวงปู่เล็ก ท่านยังมีความสนิทสนมกับหลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรีมาก เพราะเมื่อสมัยที่หลวงปู่เล็กท่านไปเรียนวิทยาคมกับหลวงพ่อเต่า วัดน้ำพุ วัดน้ำพุกับวัดโพธิ์ศรี ไม่ห่างกันมาก ท่านไปมาหาสู่กันเป็นประจำ และถือว่า หลวงปู่เล็กเป็นศิษย์น้อง ที่ได้รับคำแนะนำจากหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อกร่ายท่านด้วย
.
....ขอแทรกเรื่องเกี่ยวกับยันต์นะปัดตลอดสักเล้กน้อย หลวงปู่เล็กท่านมีความมั่นใจและประทับใจในองค์หลวงปู่โต๊ะ อย่างมาก ครั้งหนึ่งหลวงปุ่ท่านเคยเล่าเรื่องที่ท่านเรียน นะปัดตลอดกับหลวงปู่โต๊ะ ให้กับเจ้าอาวาสวัดแปดแก้ว อ่างทองฟังว่า “หลวงพ่อข้า(หมายถึงหลวงปู่โต๊ะ) เก่งจริง เขียนยันต์ด้วยแป้งเสกใส่มือ แล้วเป่าพ้วงเดียว จะให้ไปติดตรงไหนในกุฏิก็ได้” มีครั้งหนึ่งแขก ที่นับถือหลวงปู่โต๊ะมาขอเรียน นะปัดตลอด หลวงปู่โต๊ะท่านก็สอนให้และให้ทำให้ดู แขกคนนั้นท่อง พุธโธ และเป่า พ้วงเดียว สำเร็จเดี๋ยวนั้นเลย ยันต์ไปติดข้างฝากุฏิได้ทันที หลวงปู่เล็กท่านบอกว่าแปลกมาก แต่ท่านก็บอกว่าถ้าจิตมั่น และมั่นใจว่าใช้ได้ มันก็สำเร็จ ทุกอย่างมันอยู่ที่จิต
.
..หลวงปู่เล็ก วัดทำนบท่าน เป็นพระเถราจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏบัติชอบอยู่ในกรอบพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด จนเป็นที่เคารพของทั้งพระ และฆราวาสในจังหวัดอ่างทอง เรื่องราวที่ท่านรู้เหตุการล่วงหน้า รู้วาระจิต คนบ้านทำนบก็ทราบกันดี เพราะเจอกันมามาก นึกอะไรจะพูดอะไร ท่านดักทางจนพูดกันไม่ออก หลวงปู่เล็กท่านเป็นพระที่ดุ คนทำนบยำเกรงท่านมากๆ เกรงบารมีหลวงปู่กันตั้งแต่รุ่นชวด ยันรุ่นหลาน ไม่ค่อยมีใครกล้าไปวุ่นวายกับท่านมากนัก
.
... เรื่องรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า
เรื่องนี้เจอกันมาเยอะ ถ้าไม่เชื่อผม ก็ลองไปถามคนทำนบดูเอาเองครับ บ้านไหนก็ได้ คนไหนก็ได้ แต่ผมจะยกตัวอย่างสักเรื่อง คือ มีครั้งหนึ่งศิษย์แถวตลิ่งชัน ได้สร้างพระเพื่อแจกฟรี ไปขอเมตตาหลวงปู่เล็กท่านเสกให้ ก่อนออกจากบ้านจุดธูปบอกกล่าวท่านก่อนว่าจะขอบารมีหลวงพ่อปลุกเสกพระขอให้หลวงพ่อเมตตา ขับรถมาสักพัก พอมาถึงวัดทำนบ กรรมการวัดท่านหนึ่งออกมายืนรอโบกรถ ให้เข้าจอดและบอกว่า หลวงพ่อท่านรออยู่ คณะที่ไปมองหน้ากันแบบงงๆ แต่ก้อมยิ้ม เพราะมาไม่ผิดที่แน่แล้วแบบนี้
.
....พอเข้าไปถึงหลวงพ่อท่านนั่งห่มผ้าเรียบร้อย รออยู่แล้ว พอคณะบอกกล่าวท่านว่าจะเอาพระมาเสกท่านก็ให้วางไว้ห่างจากท่านน่าจะเมตรกว่า หลวงพ่อก็ไม่ได้หยิบกล่อง จับกล่องหรือแม้แต่โยงสายสิญแต่อย่างใด ท่านนั่งเทศไปคุยไปเล่าเรื่องเก่าๆให้ฟัง ตาก้มองกล่องไปเป็นพักๆ สักประมาณครึ่งชั่วโมง ท่านก็ขอเหรียญมาดูหนึ่งเหรียญ ท่านพิจารณาสักพัก ท่านก็ให้เก็บใส่ถุงไปตามเดิม คนที่หยิบใส่ถุงคิดในใจว่าจะเอาเหรียญนี้วางไว้ปากถุง ได้หยิบง่ายๆ คือว่าจะเอาไว้เอง พอคิดเท่านั้นหลวงพ่อท่านพูดขึ้นมาทันทีว่า “ใส่ไปไว้ลึกๆ แล้วคนๆให้ทั่วๆ”
.
..... สรุปว่าแห้วไปคราวนั้น เหตุการแบบนี้มิได้เกิดขึ้นกับคณะนี้เพียงครั้งเดียวนะครับ หลายๆคณะเจอกันมามาก ใครไม่เจอเองไม่รู้ เรื่องนี้คนยืนยันหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น อีกเรื่องหนึ่ง มีลูกศิษย์ของหลวงปู่ได้เอารูปหลวงปู่ไปบูชาบนหิ้ง และตั้งกระถางธูปจุดธูปบูชาทุกวัน จนครั้งหนึ่งมากราบหหลวงปู่ หลวงปู่ท่านทักว่า เวลาบูชาไม่ต้องจุดธูปหน้ารูป ท่านแสบตา และท่านยังไม่ตาย พี่ชายคนนั้นถึงกับอึ้งไปครู่หหนึ่งเลยทีเดียว
.
...หมอผีแขกต้องหนี
เรื่องนี้เกิดเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว ที่วัดทำนบ สมัยนั้นมีหมอผีแขกมาตั้งรกรากอยู่บริเวณนั้นแต่เป็นหมอคุณกระทำ ครั้งหนึ่งมีผู้หญิงพาลุกสาวมาขอความช่วยเหลือกับหลวงปู่ เนื่องจากถูกคุณกระทำ และมีวิญญาณแฝง ทำให้ทุรนทุราย อยู่ไม่ได้ต้องพามาหาหลวงปู่ พอมาพบหลวงปู่ หลวงปู่มองเห็นก็ทราบว่าถูกคุณผีแฝงมา ท่านพูดลอยๆเหมือนสั่งใครสักคนบริเวณนั้นให้เอาวิญญาณที่แฝงออกมาและให้เอาไปไว้ที่เมรุ ท่านสั่งสักพักอาการของผู้หยิงคนนั้นก็สงบลง หลวงปู่ท่านทราบว่าใครเป็นผู้กระทำ เมื่อเป็นดังนั้นสักครู่หลวงปู่ท่านก้นั่งกำหนดจิตนิ่งๆสักพักหนึ่ง หมอแขกวิ่งทุรนทุรายออกมาจากบ้านถอดเสื้อถอดแสงออกมานอนกลางสนามหญ้าหน้าวัด นับตั้งแต่นั้น หมอผีคนนี้ก็ย้ายรกรากจากวัดทำนบ มาอยู่บริเวณตลาดวิเศษฯแทน และก็มารับจ้างทำเสน่ห์ ลงทอง ตอนหลังถูกยิงเสียชีวิต
.
การเสกพระของหลวงปู่ในแต่ละครั้ง
.....เรื่องการเสกพระของหลวงปู่ ถ้าใครที่เคยไปกราบท่าน ไปขอท่านเสกพระที่วัดทำนบสมัยท่านยังแข็งแรง คงทราบดีว่าหลวงปู่เสกพระโดยไม่เคยจับสายสิญน์ บางคนเอาพระมาเสก เข้ามากราบท่าน ท่านทราบเจตนาท่านก็เสกให้ตั้งแต่คลานเข่าเข้ามาแล้ว อันนี้เจอกันมาหลายราย ลองไปถามคนทำนบดูเอง บางครั้งเอาพระไปเสก ท่านขอดูเหรียญเดียว กล่องที่ใส่พระไม่ต้องเอาเข้ามาไกล้ๆท่าน ท่านเสกเหรียญเดียว และเอาเหรียญที่เสกไปไว้รวมกัน ท่านบอกใช้ได้เหมือนกันหมด อย่างที่ผมบอก และเคยกล่าวไว้ ว่าท่านสำเร็จวิชา นะปัดตลอด ผมเองไม่ทราบว่าหลวงปู่ท่านถึงระดับไหนเพราะผมไม่กล้าเดา แต่ครูบาอาจารย์ผม ท่านบอกว่า ที่ท่านเสกแบบนี้ เป็นความชำนาญเฉพาะของท่าน และท่านใช้นะปัดตลอดในการเสก บางท่านไม่เข้าใจ ก็ขอให้เข้าใจตามนี้ สำหรับคนที่เคยไปกราบหลวงปู่คงเข้าใจดีอยู่แล้ว คนบ้านทำนบ แม้รูปภาพหลวงปู่ที่ขอท่านถ่ายไว้ แต่ไม่กล้าเอาไปให้ท่านเสก ก็ยังเอามาห้อยคอกันโดยไม่เสียกำลังใจ และมีประสบการณ์มากด้านรถยนต์ประสบอุุบัติเหตุไม่ได้รับอันตราย คนทำนบเองเชื่อถือและเคารพหลวงปู่อย่างมาก
.
หลวงปู่ท่านเคยกล่าวกับชาวบ้านทำนบท่านหนึ่งว่า "ของๆกูไม่ใช่ของโหล แบกะดิน"
...............

 

#ของแจกชุดที่2 # หลวงปู่ไม #กระทู้จากสหายฌาน
.........................................
@@@คั่นแจกชุดนี้ สิมีคนอยากได๋นำบ่หน้อ@@@
ขึ้นชื่อว่าของแจก “ผู้แจกนั้นมีใจอยากให้ ผู้ได้ัก็ย่อมมีใจยินดีที่ได้รับเช่นกัน” วันนี้นำของที่จะแจกอีกส่วนหนึ่งมาลงให้สมาชิกทุกท่านชมกันนะครับ (กติกายังไม่ออก) เอาของแจกมาให้ดูก่อนเลยแล้วกัน
มองๆ ดู หลายคนอาจมองว่ามีค่าน้อยนิด แต่คุณค่าในตัวของวัตถุย่อมมีคุณค่าทุกชิ้นนะครับ 555 สำหรับชุดนี้เป็นชุดวัตถุมงคลขององค์หลวงปู่ไม อินฺทสิริ วัดป่าเขาภูหลวง ท่านสหธรรมกับองค์หลวงตาสมหมายเรานะครับ รายการที่จะแจกประกอบด้วย
1. เหรียญไม้แก่นขนุน รุ่น ชนะมาร (สร้างปี 2558 เสก 1 ไตรมาศ)
2. เหรียญพระอุปคุตจิ๋ว (ออกแจกปี 58) เหมาะสำหรับเด็กและสตรี
3. เหรียญแจกทาน ปี 56 (มีเหรียญเดียว)
4. พระขุนแผนหลวงปู่ไม (ปี 58) เลี่ยมพร้อมใช้ เหลือองค์เดียวแจกหมดแล้ว 555

 

เพิ่งมาอ่าน
ได้รู้ เห็น
สิ่งดีๆมากเลยครับ

อนุโมทนา ครับ

 

ได้ความรู้เพิ่ม สอดแทรกธรรมมะ มีเรื่องราวพ่อแม่ครูบาอาจารย์ และมีเรื่องเกี่ยวกับวัตถุมงคลถูกจริตผม มากๆครับ

 

.....สวัสดีครับพี่ๆน้องๆในกลุ่มทุกท่าน หายไปไม่ใช่อะไรครับยุ่งๆ เมื่อวานวันวิสาฆบูชา ช่างชิตเอาภาพบรรยกาศที่วัดหลวงตาพร้อมคำสอนมาฝากครับ ส่วนเรื่องราวดีๆจะตามมาอีกเหมือนเดิมครับผม
..........................................................
"วันนี้เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันวิสาขบูชา ทางราชการหยุดให้ทำบุญ ทำบุญระลึกถึงพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า มาทำบุญกำหนดลมหายใจดูตัวเอง หายใจเข้าพุท หายใจออกโธ พุทโธ พุทโธ ดูลมหายใจของตนเองนี่เรียกว่าทำบุญ วันนี้เป็นวันสำคัญให้มาทำความดี ถึงแม้จะไม่ใช่วันสำคัญก็ให้ทำความดีเช่นกัน"...หลวงตาสมหมาย อตฺตมโน วัดป่าสันติกาวาส วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปี พ.ศ.๒๕๕๙
#เครดิต พี่จุมพฎ

 

.....เรื่องราวสดๆร้อนของสหายฌานกร(ที่เขียนในกลุ่มเฟส)ที่พบเจอเรื่องประทับใจกับตัวเอง สำหรับช่างชิตสิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้แปลกหรือประหลาดใจ เพราะช่างชิตเชื่อมานานแล้วครับว่า "หลวงตาจบกิจแน่นอนแล้ว" แต่รูปนี้เป็น"หลักฐานที่ดีมีความเชื่อถือได้ทั้งภาพถ่ายและตัวบุคคล" ยืนยันในสิ่งที่ช่างชิตเชื่อก็เท่านั้นเอง ขออนุโมทนาสาธุกับสหายฌาน ผู้เคารพศรัทธาหลวงตาและสวดมนต์นั่งภาวนาทุกวัน จนมีปาฏิหาริย์ของครูบาอาจารย์มาแสดงให้ประจักษ์เห็นด้วยตาครับ
.......................................................
สวัสดีครับพี่ๆน้องๆสมาชิกทุกท่าน
หลับกันหรือยังครับ (รอดูแมนฯยูกันก่อนนะครับ 555)
วันนี้มาดึกหน่อยนะครับ เพราะเพิ่งว่างเว้นจากภารกิจ ทั้งเตรียมงานออก ตจว. ทั้งภารกิจคุณพ่อตัวอย่าง ซึ่งค่อนข้างหนักเอาการเลยทีเดียว 555
.
.....เรื่องที่จะนำเสนอในวันนี้ เป็นเรื่องราวแห่งความดีใจประทับใจ อัศจรรย์ใจของกระผม....ฌาน ฌานกร ท้าวความไปถึงเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ผมได้มีโอกาสไปร่วมงานบุญวันครบรอบวันมรณภาพหลวงปู่บุญจันทร์ กมโล ที่วัดป่าสันติกาวาส ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมได้ไปที่วัดแห่งนี้ เมื่อก่อนเคยแค่ผ่านถนนหน้าวัดครับ ก่อนไปที่วัดก็ได้มีโอกาสคุยกันพี่ชายใจดีลูกศิษย์หลวงตาสมหมายท่านหนึ่ง (ไม่ขอเอ่ยนามนะครับ อิอิ) ตอนนั้นยังไม่เคยเจอกันเลย เคยคุยแต่ในเฟส ไอ้คนอย่างผมก็หน้าด้านนิสๆ ด้วยความอยากได้เกศาองค์หลวงตาสมหมายมาบูชา ก็เลยหลังไมค์ (inbox) ไปขอพี่เค้า ด้วยความเมตตาที่พี่เค้ามีต่อผม เค้าก็ตอบตกลงว่าจะให้โดยจะเอามามอบให้ในวันงานหลวงปู่บุญจันทร์
.
....พอถึงวันงานที่วัดผมกับช่างชิต ตื่นเต้นอะไรก็ไม่รู้ไปถึงวัดก็ไม่หลับไม่นอน จับกลุ่มคุยกันแปลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่างๆนาๆ คุยกันจนน้ำลายแห้งครับ ไม่ใช่อะไรคืนนั้นฝนตกหนักทั้งคืนไปไหนไม่ได้ก็เลยคุยกันทั้งคืนเลย 555 ง่วงก็ง่วงผมเลยแอบทำท่าเข้าไปนั่งฟังเทศน์ภาวนาแบบกึ่งหลับกึ่งตื่นสัปหงกทั้งคืนจนถึงรุ่นเช้า ก่อนจะตื่นมาทำวัตรเช้าแล้วเตรียมตัวใส่บาตร (เริ่มนอกเรื่องออกไปไกลล่ะ)
.
......พอรุ่งเช้าผมก็ได้พบกับพี่ชายใจดีเดินมาหาผมที่ศาลาใหญ่ในใจผมดีใจตั้งแต่เห็นหน้าพี่เค้าล่ะ พอพี่ชายทั้งนี้กราบหลวงตาเสร็จผมก็ยกมือไหว้สวัสดีทักทายตาประสาผู้น้อยเคารพผู้ใหญ่ พี่เค้ายกมือรับไหว้ ก่อนจะล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายพร้อมกับหยิบบางสิ่งออกมายื่นให้กับผม พร้อมกับบอกว่าแบ่งกันไปบูชานะ พี่ก็เพิ่งได้มาเหมือนกัน (ได้มาปี 58) ผมกล่าวขอบคุณพี่ชายใจดี ก่อนจะรีบเอาตลับเกศาใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว 555
.
......หลังกลับมาจากงานที่วัด ผมก็ได้นำตลับเกศาหลวงตาสมหมายใส่พานขึ้นบูชาที่ห้องพระ ก่อนจะใส่ในพานก็แอบใช้กล่องส่องพระส่องดูสิว่ามีอะไรแปลกปลอมในนั้นหรือเปล่า ปรากฏว่าไม่มีอะไรนอกจากเส้นผมหลวงตา เส้นขาวเส้นดำสลับกัน (แต่ในใจก็หวังลึกๆว่า สักวันหนึ่งเกศานี้จะต้องแปรสภาพเป็นพระธาตุหรือมีพระธาตุเสด็จมาแน่) ผ่านไปเกือบครึ่งปีก็ไม่ได้คิดอะไรจนถึงวันสงกรานต์ทำความสะอาดหิ้งพระ เอาตลับเกศามาส่องดูอีกก็ยังไม่มีอะไรไม่เป็นไร เพราะเราเคารพและบูชาองค์หลวงตาด้วยจิตใจที่เคารพบูชาเหนือเศียรเกล้าอยู่แล้ว
.
.....หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสเปิดตลับเกศาอีก เพราะได้แบ่งเกศาให้พี่ชายใจดีอีกท่านหนึ่งเอาไปบูชาเลี่ยมใส่เหรียญปัญญาอิทธิฤทธิ์ ที่พวกเราสร้างถวายหลวงตา ก็นั่นแหละครับ ส่องดูอีกก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งเมื่อก่อนวันวิสาขบูชาลองแอบส่องดูอีก (ส่องตอนกลางคืนไม่ค่อยชัดเพราะแสงน้อย) รู้สึกว่ามีอะไรแปลกปลอมเข้ามาปะปน จนเมื่อวานนี้ฤกษ์งามยามดี วันพระใหญ่ “วิสาขบูชา” เลยถือโอกาสเปิดตลับใช้กล่องส่องพระ ส่องซูมเข้าไปใกล้ๆ ให้ชัดสิว่าเป็นอะไรกันแน่ ก็อย่างที่ผมพยายามจะถ่ายรูปให้ทุกท่านเห็นชัดๆ นั่นแหละครับ
.
.....ปรากฏว่ามี เม็ดใสๆ และผลึกเข้ามาเกาะที่เกศาองค์หลวงตาประมาณ 3-4 เม็ด ผมนี่ขนหัวลุกเลยอัศจรรย์ใจและดีใจมากๆ สิ่งที่แอบหวังไว้เกิดขึ้นมาจริงๆครับ มีพระธาตุเสด็จมาจริงๆ (เป็นความเชื่อเฉพาะตนของผมนะครับ) เมื่อเช้าไม่แน่ใจตัวเอง ส่งรูปภาพให้พี่ชายใจดี และกลุ่มแอ็ดมินกลุ่มช่วยดู ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าน่าจะเป็นพระธาตุเสด็จนะ ทำไงละครับ ก็ดีใจสิครับ เดิมทีตัดสินใจอยู่นานว่าจะมาเขียนเรื่องนี้ในกลุ่มเราดีไหม
.
....สรุปก็เลยตัดสินใจมาเขียนเพื่อแบ่งปันความรู้สึกดีใจและอัศจรรย์ใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับสิ่งที่ผมเคารพและบูชา ที่นำมาเขียนนี้ไม่ได้เขียนเพื่อที่จะโน้มน้าวใครให้มาเชื่ออย่างเดียวกับผม (เพราะผมเชื่อและศรัทธาในองค์หลวงตาสมหมายแบบไม่มีข้อลังเลสงสัยแล้ว) เป็นการนำมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่พบเจอกับตัวเองนะครับ แต่ถ้าใครไม่เชื่อก็อย่าไปปรามาสในองค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านนะครับ เพราะจะเป็นบาปเป็นกรรมกันเปล่า (ใครไม่เชื่อก็ขอให้อ่านแล้วผ่านไปนะครับ)
.
....สุดท้ายนี้กราบขอขมากรรมต่อองค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์องค์หลวงตาสมหมาย อัตตมโน กรรมอันใดที่กระผมได้ประมาทพลาดพลั้งต่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ด้วยกายกรรมก็ดี วจีกรรมก็ดี มโนกรรมก็ดี ทั้งต่อหน้า และหลับหลัง ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ขอองค์หลวงตาจงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้นต่อลูกหลานด้วยเถิด สาธุ
ขอบคุณภาพจากพี่ตุ๊ Jhumpot Soleil
ภาพเกศา กระผม ด.ช.ฌาน ถ่ายเองครับ

 

‪#‎ของแจกชุดที่3‬ ‪#‎พระผงหลวงปู่มั่นค้ำดวง‬ ชุด 5 มนต์พิธี
....สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกท่าน เช้าวันทำงานหลังจากวันหยุดยาว หวังว่าทุกๆท่านคงมีความสุขกันถ้วนหน้า หายหน้าหายตาไปหลายวันไม่ได้มาโพสก็ไม่ใช่อะไรครับ หมดอารมณ์ไม่มีอารมณ์เขียน ศิลปินก็แบบนี้ 5555++ ก็พอดีในกลุ่มเฟสเรามีเรื่องราวที่ประทับใจของสหายฌานที่นำมาลงด้วยละ ก่อนจะไปพูดถึงเรื่องของแจกขอพูดถึงเรื่อง “เกศาหลวงตา” ตรงนี้นิดหนึ่ง
.
.....ต้องบอกว่า สำหรับช่างชิตสิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้แปลกหรือประหลาดใจครับ.... เพราะช่างชิตเชื่อมานานและมีข้อมูลระดับ”ลับสุดยอด”ที่ไม่สามารถเขียนได้ เพราะเขียนไปถ้าหลวงตารู้โดนด่าแน่ๆและมันก็ดูไม่เหมาะสมหลายอย่างเพราะมันมีบุคคลที่3ที่4 แถมคนที่ไม่เชื่อก็จะไปปรามาสหลวงตาเอา งั้นไม่เขียนดีกว่ารอให้ “ความจริงปรากฏมาเรื่อยๆแบบนี้ละดีแล้ว” ข้อมูลตรงนี้ช่างชิตทราบมาจากบุคคลที่มีความหน้าเชื่อถือ ทำให้มั่นใจมานานแล้วครับว่า "หลวงตาจบกิจแน่นอน"
.
.....เรื่องราวของสหายฌานและรูปนั้นเป็น"หลักฐานที่ดีมีความเชื่อถือได้ทั้งภาพถ่ายและตัวบุคคล" ยืนยันในสิ่งที่ช่างชิตเชื่อก็เท่านั้นเอง ....สหายฌานแม้จะรู้จักหลวงตาไม่นานแต่มีศรัทธาหลวงตาเกิน100% และถือว่าเป็น”คนดี”คนหนึ่ง ช่างชิตมองแล้วว่า “เป็นคนโอเคร จริตเดียวกัน วัยเพื่อนกัน คุณได้ไปต่อ” จึงชวนมาทำกิจกรรม”วงใน”ร่วมกันตลอดมา
.
.....การที่เกศาหลวงตากลายเป็นพระธาตุกับสหายฌาน เพราะสหายฌานเป็นคนมีศีลด่างพร้อยน้อย ไหว้พระสวดมนต์นั่งภาวนาประจำละครับ หลายคนที่มีเกศาหลวงตาแล้วมีสิ่งอัศจรรย์ใจก็มีไม่น้อย แต่ไม่มีใครมาถ่ายรูปลงหรือโชว์ให้พวกเราดูเท่านั้นเอง ที่เกศาม้วนๆเป็นก้อนๆช่างชิตได้ยินมาไม่ต่ำกว่า 3-4 รายแล้ว เห็นกับตาก็เคย ยังไงถ้ากัลยาณมิตรที่มีเกศาพร้อมที่จะแชร์เรื่องราวก็ส่งรูปเขียนเรื่องให้กันอ่านบ้างก็ได้นะครับ ส่วนเกศาที่อยู่กับช่างชิตไม่เป็นเพราะตรงข้ามกับสหายฌานหมด 5555++
.
......เอาๆ มาว่ากันเรื่องของต่อ “พระหลวงปู่มั่นค้ำดวง”(พระรุ่นนี้สร้างจากมวลสารเถ้าอังคารพ่อแม่ครูบาอาจารย์และได้รับการอธิฐานจิตจากพระอริยะเจ้ามากมายนัก คุณลุง นกเริงลม เป็นผู้สร้างถวายวัดศรีมุงเมือง เชียงใหม่ หาข้อมูลเพิ่มเติมในกูเกิ้ลนะครับ) ที่แอดเอ็กซ์แอด4น้องรัก ไปทำบุญเหมามาจากวัดป่าศรีมุงเมืองที่เชียงใหม่เลยครับ จากการสอบถามแอดเอ็กซ์ ได้ความว่า “ชุดนี้เป็นชุดสุดท้ายที่วัดเหลือตกค้างอยู่ หมดแล้วหมดเลยว่างั้น” แอดเอ็กซ์ระดับเสี่ยใจปล้ำเราจึงจัดบูชามาทั้งหมดครับ 110 องค์ เป็นเงินร่วมๆหมื่นกว่าบาท นั้นแสดงว่าที่วัดจะไม่มีพระชุดนี้อีกแล้ว ถ้ามีก็....???...
.
.....แต่กระนั้นช่างชิตเองก็มีข้อมูลว่าบล็อกที่ปั้มพระชุดนี้ยังไม่ได้ทำลายและได้ถวายวัดไปตั้งแต่สร้างเสร็จแล้วเมื่อหลายปีก่อน เพื่อความมั่นใจว่าชุดนี้จะเป็นของเสริมหรือไม่? ช่างชิตจึงเอาพระชุดของแอดเอ็กซ์มาส่องเทียบกับของเก่าที่ได้รับมากับ คุณลุงนก ที่ตัวเองมี สรุปจากสายตาของช่างชิตและข้อมูลที่มีนะครับ เนื้อหามวลสาร การโก่งตัวบิดงอขององค์พระ และคราบสีเขียวๆฟ้าๆที่เกิดจากสีกระดาษรองตอนปั้มแล้วติดมา พระชุดนี้มีครบ ทำให้ช่างชิตเบาใจไปเปราะหนึ่ง
.
....แต่เพื่อความสบายใจและให้พระชุดนี้“พิเศษจริงๆ”สำหรับผู้ที่ได้รับแจกไปในงวดนี้ ช่างชิตจึงเอาพระชุดนี้มาทาสีทองและ“ทาน้ำพระพุทธมนต์ข้ามปีที่แช่พระขรรค์เทพศาสตร์ตราและปฐวีธาตุหลวงปู่คำพันธ์ทั้งด้านหน้าด้านหลัง”พร้อมเอาเข้าพิธีเจริญพระพุทธมนต์พระคาถาจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ 5 วัน5คืน เรียกกันว่าตอนนั้น”บ้าหอบฟาง”แบกข้ามน้ำข้ามจังหวัดเลยทีเดียวเพื่อเข้าพิธี รายชื่อครูบาอาจารย์ที่อธิฐานจิตและสวดอัดพลังพระคาถาพุทธมนต์5วัน5คืน มีดังนี้
1 หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม วัดป่าสีห์พนม
2 หลวงตา ทองอินทร์ กตบุญโญ วัดป่ากุง
3 หลวงปู่ก้าน จิตตธัมโม วัดถ้ำเป็ด
4 หลวงพ่อไม อินทสิริ วัดป่าเขาภูหลวง
5 หลวงปู่บุญทัน ฐิตสีโล วัดเขาเจริญธรรม
6 หลวงพ่อสมหมาย อัตฺตมโน วัดป่าสันติกาวาส
7 พระอาจารย์วิโรจน์ ฉันทกาโร วัดป่าภูวังงาม
8 พระอาจารย์จิระวัฒน์ อตฺตรกฺโข วัดป่าไชยชุมพล
9 พระอาจารย์บุญมี ธัมมรโต วัดป่าศรัทธาถวาย (วัดถ้ำเต่า)
10 พระอาจารย์บุญลั่น กันโตภาโส วัดถ้ำอินทนิล
11 พระอาจารย์จำรัส จันทโชโต วัดเจริญสมณกิจ
12 พระอาจารย์ สมเกียรติ ชิตมาโร วัดป่าถ้ำพระเทพนิมิตร (ถ้ำตาลเลียน)
13 พระอาจารย์ประสาทศิลป์ อภิวัณโณ วัดป่าหนองแวง
14 พระอาจารย์เฉลิม ธัมมธโร วัดป่าภูแปกญาณสัมปันโน
15 พระอาจารย์ชัยนาด(น้อย) ยโสโก วัดป่าเขาผา
16 พระอาจารย์มหาประกอบ ธัมมชีโว วัดป่ามหาไชย
17 พระอาจารย์ สมศรี (สำเร็จ) ธัมมกาโม วัดป่าหนองกุง
18 พระอาจารย์พเยาว์ โชติวโร วัดป่าศิลาวาส
19 พระอาจารย์ สุภาพ ปภาโส วัดถ้ำวังหิน
20 พระอาจารย์คูณ จิรธัมโม วัดป่าเขาลม
21 พระอาจารย์สัมฤทธิ์ ฐิตสิทธิ สำนักสงฆ์ถ้ำจุนโท
22 พระอาจารย์ทองปาน จารุวัณโณ วัดป่าภูตะคาม
23 พระอาจารย์ ประดิษฐ์ (สอ) ธรรมสโร วัดป่าภูวังทอง
24 พระอาจารย์ สัจจา (ลี) ผลปัญโญ วัดป่าหนองผือ
25 พระอาจารย์ จักกฤษณ์ (โจ) คุเณสโน วัดป่านาแองญาณสัมปันโน
26 พระอาจารย์ หมื่น ปัญญาธโร สำนักสงฆ์พุน้ำร้อน
27 พระอาจารย์อมร อนุตตโร วัดวังพุไทร
.
.....และไม่ได้เอาเข้าไปอัดในพิธีแบบหลบๆซ่อนๆนะครับ ลังที่ใส่พระชุดนี้ตั้งข้างๆหลวงปู่บุญมา ท่านหันมาเห็นรูปหลวงปู่สนั่นที่อยู่ในลังกลับหัว(ของแจกอีกชุด) ท่านออกปากเลย “ห่วย ไปให้หลวงปู่กลับหัวเฮ็ดหยั่ง ไปตั้งเพิ่นขึ่นมาดีๆ” นั้นแสดงว่าพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านใส่ใจจริงๆครับ ฉะนั้นให้หายห่วงว่าท่านจะไม่รับรู้เป็นของแอบอัดพิธี ช่างชิตเชื่อเกินล้าน%ว่าวัตถุมงคลที่เข้าในพิธี5วันนี้ ศักดิ์สิทธิ์และเพิ่มพลังพุทธบารมีในองค์พระทุกๆองค์ทุกๆอย่างแน่นอน
.
...ฉะนั้น พระหลวงปู่มั่นค้ำดวงที่ทาน้ำมนต์และทาทองจะมีแค่ 110 องค์เท่านั้น ช่างชิตจะเรียกว่า “พระหลวงปู่มั่นค้ำดวง5มนต์พิธี” ใครได้ไปให้เข้าใจตรงกันว่า พระชุดนี้ช่างชิตเอามาเข้าพิธีเพิ่มและทาน้ำพระพุทธมนต์ แจกเป็นที่ระลึกในกลุ่ม เอ้าๆ ช่างชิตทำขนาดนี้ทั้งๆที่เอามามอบให้กันโดยไม่มีราคาค่างวด ใครว่าไม่ดี ใครว่าด้อยค่า ก็ไม่ต้องเอาเด้อ น้อยใจไว้ก่อนละ 5555++
.
.....ส่วนจะแจกยังไงจำนวนเท่าไร รอให้แจ้งรายละเอียดของแจกให้หมดก่อนนะครับ แล้วจะแจ้งกติกา เพราะของทุกอย่างมีจำนวนจำกัด ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามกันเสมอมา ขอบพระคุณสมาชิกที่มาให้กำลังใจ ขอบพระคุณพี่จุมพฏที่นำธรรมะแบบเน้นๆมาโพสประจำในกลุ่ม ช่างชิตก็เอามาลงในกระทู้เราต่อ และขอบพระคุณทุกๆท่านที่กดไลค์และอนุโมทนา เจอกันตอนหน้าของแจกชุดที่4 ครับ

 

เข้ามาติดตาม และตามมาติดๆ เผื่อว่าจะมีโชคและวาสนากับเขาบ้าง

 

....สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกท่าน เมื่อคืนก่อนนอนมีเรื่องสุดประทับใจจดต้องเขียนลงกลุ่มในเฟส คั่นเวลาแจกของ แม้จะเหนื่อยเพียงไหนก็ต้องเขียน เพราะเก็บความประทับใจนี้ไว้ไม่ไหวจริงๆ
.
....เรื่องของเรื่องคือวันนี้ช่างชิตไปประชุมงานที่ลพบุรี ใจก็นึกถึงครูบาอาจารย์องค์หนึ่งที่เคารพอยากไปกราบท่าน ครูบาอาจารย์องค์นั้นคือ หลวงพ่อพิเชษฐ วัดโคกหม้อ พระเกจิผู้มากวิชาเรืองคาถาและขึ้นชื่อในยุคปัจจุบัน ช่างชิตเองเคยไปกราบท่าน4-5ครั้งแล้วครับ แต่ก็นานๆมีโอกาสมีงานที่วัดถึงได้ไป เพราะฉะนั้นจึงเป็นศิษย์ปลายแถว แต่คิดว่าหลวงพ่อคงจำได้
.
.....วันนี้อยากไปกราบท่านเพราะมีโอกาสมาใกล้ พอประชุมเสร็จขออนุญาตเจ้านายออกมาเลย เปิด GPS ดู โอ้โหวัดห่างจากโรงงาน 45 โล ไปกลับเกือบ100 มีเวลา 2 ชั่วโมงเท่านั้นเพราะต้องมารับเจ้านาย แต่เอาว่ะ ใจมันไปละ เลยตัดสินใจเหยียบทันที
.
....พอไปถึงวัด หลวงพ่ออยู่พอดีท่านคุยธุระอยู่ ช่างชิตก็ไปนั่งเสนอหน้าใกล้ๆ. จนแขกท่านกลับ จึงขยับเข้าไปแล้วคุยกับท่าน
.
ชช "หลวงพ่อสบายดีไหมครับ จำผมได้หรือเปล่า เพื่อน...(พ่ออะตอม คนหล่อมากเมีย)...เพื่อนนัน ครับ" อ้างชื่อคนใหญ่คนโตทั้งนั้น
.
ลพพิ "สบายดี แต่จำคุณไม่ได้หรอก" ท่านทำหน้า งง ช่างชิตก็เลยยิ้มแห้งๆ 555++
.
.....จากนั้นก็คุยกับท่านเรื่องคอที่พึ่งผ่าตัดมา พร้อมถามเรื่องพี่ที่รู้จักกัน ติดต่อหมอนวดเส้นจากช่างชิตมานวดท่านๆเป็นไงบ้าง ท่านบอกดีประทับใจมาก(อันนี้ต้องอนุโมทนากับพี่เจี้ยบและซูฮกฝีมือพี่โอฬารด้วยนะครับ) ถามไปถามมาก่อนนึกได้ว่าพกแร่อึมครึมมาด้วย เลยเอามาให้ท่านดู
.
ชช "หลวงพ่อครับ ผมไปได้แร่อึมครึมมา อยากให้หลวงพ่อเมตตาเสกให้หน่อยได้ไหมครับผมจะเอาไปฝังในตัว" ช่างชิตพูดพลางจับแท่นแร่ที่จะนำมาฝังแขนแบบตะกรุดส่งให้ท่าน
.
ลพพิ "จะฝังก็ไปให้หมอฝังให้นะ" ท่านกล่าวจบก็เมตตาเสกอัดพลังแร่อึมครึมให้ช่างชิต
.
....ท่านเมตตาอัดพลังให้เสร็จส่งคืนมา ท่านก็ชี้ให้ดูก้อนแร่ที่อยู่ขวามือท่าน
.
ลพพิ "นั้นแร่เกาะล้าน"
.
ชช "โอ้โห ก้อนใหญ่จังครับ แล้วนั้นหินไข่พญานาคใช่ไหมครับ ของพวกนี้มีฤทธิ์ตามธรรมชาติจริงไหมครับหลวงพ่อ?" ช่างชิตถามพร้อมชี้นิ้วไปที่ก้อนหินอีกก้อน
.
ลพพิ "นั้นหินโมกุล มันอยู่ที่คนเชื่อคุณ ถ้าคุณเชื่อว่ามีมันก็มี ถ้าคุณเชื่อว่าเป็นแค่เครื่องประดับมันก็เป็นแค่เครื่องประดับ อย่างแร่อึมครึมคนบอกเป็นคงกระพันมีเทวดารักษา มันก็อยู่ที่คุณเชื่อนะ"
.
.....จากนั้นช่างชิตก็คุยกับท่านอีกหน่อย พอจะได้เวลากลับ นึกได้ว่ามีโอกาสมากราบหลวงพ่อท่านเป็นผู้มีพลังจิตและเจโตแจ่มใส ขอรู้อีกซักเรื่องหน่อยเถอะ นึกแล้วก็ปลดสร้อยคอออกแล้วยื่นให้ท่าน
.
ชช "หลวงพ่อครับ เมตตาดูให้ผมหน่อยได้ไหมครับ เหรียญรุ่นนี้ผมสร้างถวายหลวงตาที่บวชให้ผม ไว้ให้ท่านแจกเป็นทาน ผมอยากรู้ว่าหลวงตาเสกมาดีด้านไหนบ้าง" ย้ำนะครับว่าช่างชิตพูดว่า "เสก" ทั้งๆที่เวลาพูดถึงหลวงตากับวัตถุมงคลจะให้คำว่าอธิฐาน แต่งวดนี้สงสัยลืม
.
.....หลวงพ่อรับไปพลิกซ้ายพลิกขวา ก่อนหยิบกล้องส่องพระมาส่องแล้วถามช่างชิต
.
ลพพิ "ใครออกแบบเหรียญ นี้พระพุทธปางรำพึงนิ?"
.
ชช "ผมเองครับ หลวงตาเกิดวันศุกร์จึงใช้ปางนี้ แล้วตอนผมขอหลวงตาสร้าง หลวงตาบอกว่า พระอัครสาวกดีกว่าท่านให้สร้างรูปพระอัครสาวก ผมเลยออกแบบพระโมคลากับพระสารีบุตรแบบนี้ครับ"
.
....หลวงพ่อส่องซักพักก็เอาเหรียญมากำแล้วหลับตา ก่อนจะลืมตาแล้วพูดเบาๆ แต่พอได้ยินว่า
.
ลพพิ "สูงกว่าเสก!!!". ท่านว่าแล้วท่านก็เงียบ ช่างชิตก็ลุ้นสิครับก่อนจะลืมตารอบสองพลิกเหรียญไปมาดู ก่อนเงยหน้ามามองช่างชิตแล้วพูดว่า
.
ลพพิ"หลวงตาคุณท่านอธิฐานเป็นบุญฤทธิ์ใช้ได้ทุกด้านตามใจอธิฐาน ท่านไม่ได้เสกนะท่านอธิฐานจิตให้ พระระดับนี้ไม่เสก ท่านเชิญขอบารมีพระพุทธเจ้าพระโมคลาพระสารีบุตรลงมาผ่านทางท่าน พระอรหันต์จิตท่านไว สื่อถึงกันแป๊ปเดียว พลังไม่ได้เป็นโลกียะ ไม่ใช่การเสกนะ ให้เรียก อธิฐานจิต"
.
......อึ้งครับ สตั้นไป10วิ รับสร้อยมาขนลุกไปหมด นั่งหน้าเอ๋ออยู่ ก่อนจะกราบขอบคุณท่านแล้วลากลับ แบบ พูดอะไรไม่ออกตันไปหมด ในใจก็คิด สุดยอดมาก สุดยอดจริงๆ เรื่องที่หลวงพ่อบอกหราสุดยอด เปล่า ช่างชิต หมายถึง หลวงพ่อพิเชษฐอะ สุดยอดจริงๆ.
.
****ประโยคที่ว่า "พระอรหันต์จิตท่านไว" ช่างชิตไม่ได้แต่งเองนะครับ ท่านพูดแบบนี้จริงๆ สาบานให้ช่างชิตตายห่าเลย แต่ไม่รู้ว่าหลวงพ่อหมายถึงพระอัครสาวกหรือเปล่านะ ไปคิดเอาเอง เดี้ยวจะมาว่าช่างชิตมาแต่งเรื่องเขียน เป็นบ้าติ!! เงินก็ไม่ได้ใครจะลงทุนมาอดหลับอดนอนเขียน ใครคิดแบบนั้นตบปากแล้วนอนซะ****
.
.....สิ่งที่ท่านพูดมันทำให้ช่างชิต รู้สึกว่า "หลวงพ่อท่านไม่ธรรมดามากๆ" จากศรัทธาอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งศรัทธามากเลยครับ ไม่ใช่จะมาศรัทธาที่ท่านมายกย่องหลวงตาหรอกนะครับ(ทั้งๆที่ท่านไม่รู้จักกันแม้แต่ชื่อ) แต่สิ่งที่หลวงพ่อพูดมันชัดในความรู้สึก คือ มันโดนใจอะ Cool โคตรๆ
.
....... ใครมีโอกาสไปลพบุรีก็ไปกราบหลวงพ่อท่านได้นะครับ หลวงพ่อท่านเป็นพระที่ดีและเมตตาจริงๆ พี่ๆน้องๆหลายคนเพื่อนฝูงช่างชิตก็นับถือท่านมาก ก็เอามาเล่าสู่กันฟังครับ. เหรียญรุ่นนี้ไม่มีมาขายนะครับเสียใจด้วย ใครอยากได้ไปขอหลวงตาเอาเอง ที่มีอยู่หวง ยังไม่แจกตอนนี้หรอก เจอกันตอนหน้าครับ
.
‪#‎ภาพประกอบเหรียญพี่พุธสุดซอย‬ กราบขอบพระคุณครับ

 

‪#‎ของแจกชุดที่4‬ หลวงปู่สนั่น,หลวงปู่สุพจน์,หลวงปู่อ่อง
.
.....สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกท่าน ช่วงนี้บ้านเมืองเราก็วุ่นวายไม่จบไม่สิ้นตื่นเช้ามาขับรถไปทำงาน ไม่เคยได้ฟังข่าวอะไรดีๆเลยยยยยยย น่าเบื่อ ยังไงเสียก็ขอให้ทุกๆท่านใช้สติและปัญญาในการเสพข้อมูลนะครับ “ผิด” “ถูก” ถ้าเราไม่มิจฉาทิฐิบังตา ช่างชิตเชื่อว่าทุกท่านแยกแยะได้ ลองหน้าด้านแบบช่างชิตก็ได้นะครับ อย่าเป็นคน“หน้าบาง”กันมาก บางอย่างยอบรับว่า “เชื่อผิด” “ศรัทธาผิด” เพราะมัน”ผิด”จริงๆ ก็ไม่น่าอายเท่าไรหรอกครับ คนยังจะยกย่องเรามากกว่าว่า “เออ ยังรู้จักยอมรับความจริง ยังแยกแยะได้ว่า อะไร ผิด อะไร ถูก” ดีกว่าแถสีข้างถลอกหลับหูหลับตาไปเรื่อยๆ แบบนี้ช่างชิตว่ามันน่าอายกว่าเยอะ “อายยันลูกยันหลาน ที่จะต้องมารู้ว่า พ่อแม่ลุงป้าน้าอา หลับหูหลับตาไม่ฟังอะไร หรือรู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ใช่แต่หน้าบางกลัวตัวเองจะอับอายที่เชื่ออะไรผิดๆ ก็เลยไม่ยอมรับความจริง” มานึกๆดูมันก็ส่งผลเสียต่อสังคมโดยรวมนะครับ เพราะตรรกะมันวิบัติไปหมดแล้วจะเอาอะไรไปสอนคนรุ่นหลังได้ ถ้าตัวเองยังทำตัวแบบนี้ เอ่า!! พูดเรื่องไรว่ะเนี่ย พอละๆ 5555++ ถือซะว่าแมวพิมพ์ กลับมาเข้าเรื่องของเราต่อ
.
......ของแจกชุดนี้มาจากพระอริยะภาคตะวันออก ขอกล่าวถึงของที่จะแจกกับครูบาอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ของเลยนะครับ
1) พระสันพระเจ้าแดง/หนังสือมนต์ หลวงปู่สนั่น วัดป่าคลองกุ้ง หลวงปู่สนั่นเป็นใครมาจากไหน ช่างชิตเคยกล่าวไปหลายรอบแล้ว คงไม่ต้องว่าอีกนะครับ แต่ใครไม่รู้เดี้ยวให้สั้นๆ3ประโยค “ศิษย์ท่านพ่อลีชุดบุกเบิกวัดอโศก หลวงปู่พิศดูรับรองว่าเป็นพระอริยะ ท่านบำเพ็ญบารมีมาทางพระปัจเจก” พระชุดนี้จริงๆเป็นของครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง ครูบาบารมีท่านมาแนวพระโพธิสัตว์ หลวงปู่พิศดูท่านก็รับรอง ท่านเสกมาแล้วอย่างเต็มที่ แต่ครูบาท่านศรัทธาในองค์หลวงปู่สนั่นมาก จึงถวายพระชุดนี้มาให้หลวงปู่สนั่นไว้ออกทำบุญ หลวงปู่ท่านก็อัดพลังอธิฐานจิตเสริมให้อีก เท่ากับว่า พระสันชุดนี้ได้รับพลังบารมีจาก 1 พระอริยะ กับ 1 พระโพธิสัตว์ สุดยอดไม่สุดยอดก็คิดดู
.
2) พระขุนแผน หลวงปู่อ่อง วัดเขาวงกต หลวงปู่อ่องท่านเป็นพระที่รักสันโดษภาวนาอยู่ในป่าเขา เป็นพระที่เจริญกรรมฐานทั้งชีวิต หลวงปู่พิศดูท่านกล่าวถึงหลวงปู่อ่องว่า “เป็นพระดี” หลวงปู่อ่อง ถ้านับจริงๆท่านก็เป็น “สายหลวงปู่มั่นทางมหานิกาย” เพราะท่านเรียนกรรมฐานมากับพระครูศรีสังวร วัดป่าหนองน้ำขุ่น ซึ่งพระครูท่านเป็นลูกศิษย์ หลวงปู่มี ญาณมุนี วัดป่าสูงเนิน หลวงปู่มีท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่เสาร์หลวงปู่มั่นสายมหานิกายครับ ช่างชิตเคยไปสนทนากับหลวงปู่อ่อง ตอนแรกช่างชิตเข้าใจว่าท่านเป็นพระทางคาถาอาคม ปรากฏว่าท่านบอก "เอาแผ่นมาให้เราจาร เราจารภาษาขอมไม่เป็นนะ ภาษาไทยได้ไหม" "เราไม่มีคาถาอะไรเลยนะเวลาเสกของเราก็นั่งภาวนาสวดอิติปิโสไปนั้นละ" ถึงรู้ว่าท่านเดินทางกรรมฐานเป็นหลัก พระขุนแผนรุ่นนี้ในพื้นที่เล่นกันองค์หนึ่งหลายร้อย มีคนเอาไปยิงก็ยิงไม่ออก ปลุกเสก 2 วาระ วาระที่ 1 ณ วัดชุมแสง ชลบุรี วาระที่ 2 ณ วัดเขาวงกต จันทบุรี มีประสบการณ์สูง แจกงานวันเกิดท่านปีที่แล้วครับ
.
3) ผ้ายันต์/สร้อยข้อมือ หลวงปู่สุพจน์ วัดห้วยพัฒนา (เทพเจ้าเขาสมิง) หลวงปู่สุพจน์ ท่านเป็นครูบาอาจารย์สายเรานี้ละครับ เจอกันกับหลวงตาบ่อยในงานต่างๆ ช่างชิตก็เคยบอกบุญช่วยท่านมาแล้วในกลุ่มเรา ถ้าเรื่อง “เสือ” ชั่วโมงนี้ต้องยกให้ท่านละครับ สุดๆละ ประสบการณ์เล่า 5 วัน ก็ไม่หมด Coolไม่คูล “ท่านเสกเสือทองเหลืองจนขนงอกอะ” เห็นกับตามาแล้ว วันนี้แม้ไม่มีเสือมาแจก เพราะแจกไปหมดแล้วตอนกลุ่มครบ 1,000 คน แต่มีผ้ายันต์และสร้อยข้อมือประสบการณ์มามอบให้ครับ เคยถามท่านว่าสร้อยข้อมือมันดียังไงท่านตอบว่า “กันเขี้ยวกันแมงกันอาวุธได้ดีอยู่เด้อละ ใส่ไว้ตลอดไม่มีข้อห้ามดี กำไรๆ”
.
........ของทุกชิ้นของทุกอย่างไม่ได้ไปขโมยมาหรือไปขอมานะครับ ทำบุญถวายปัจจัยมาทั้งหมดหลายตังอยู่เหมือนกัน แต่ความใจป๋าของกัลญาณมิตรน้องเอ็กซ์ มีจิตอันเป็นกุศลละทาน จึงขอมอบให้กับพี่ๆน้องๆ ด้วยใจบริสุทธิ์ในวาระกลุ่มเรามีสมาชิกครบ 1,600 และ 100,000 วิว ในพลังจิต (78,000 ในอุดร108) ของทุกชิ้นมีจำนวนจำกัด ติดตามกันและรอฟังกติการ่วมสนุกดีๆนะครับ เดี้ยวรอช่างชิตมาแจ้งรายละเอียดของแจกอีกชุด(คิดดูสิว่ามันเยอะขนาดไหนของจะแจก เล่ามาจะเดือนละยังไม่หมด 555++) แล้วเราจะเริ่มมหกรรมร่วมสนุกในบ้านเราอีกครั้ง